fbpx

สิวเห่อจาก Smoothbeam ไม่จิ้ง…ไม่จริง

มีคนไข้ของผมที่ชอบอ่านอินเตอร์เนตกังวลว่­า ยิงsmoothbeam laser แล้วจะทำให้สิวเห่อ ทำให้กลัวที่จะยิงเลเซอร์ smoothbeam ในครั้งแรก บางคนตัดสินใจอยู่นานกว่าจะมาหาผมเพราะกลั­วสิวเห่อ แท้จริงแล้วคืออะไรครับ??

เลเซอร์smoothbeam คืออะไรคะ??? Smoothbeam เป็นเลเซอร์ที่มีความยาวคลื่น 1450nm ซึ่งความยาวคลื่นอันนี้จะไปทำให้ต่อมไขมัน­ใต้ผิวหนังทำงานลดลง และยังช่วยฆ่าเชื้อสิวใต้ผิวหนังอีกด้วย ดังนั้นคนไข้ของผมที่มีสิวอักเสบขึ้นมาเค้­าจะมายิงเลเซอร์smoothbeam ทันทีหลังสิวขึ้นแทนการฉีดสเตียรอยด์

แล้วทำไมถึงมีความเชื่อว่า smoothbeam ทำให้สิวเห่อ ?? อันนี้หมอไม่แน่ใจเหมือนกันครับ ว่าความเชื่อนี้เกิดขึ้นมาจากที่ไหน แต่มันเหมือนไวรัสอินเตอร์เนตเลยครับ ลุกลามไปอย่างรวดเร็ว หมอสันนิษฐานว่า เวลายิงเลเซอร์ smoothbeam แล้วคงเจ็บเหมือนโดนหนังสติ้กดีด เลยทำให้คนไข้กลุ่มนึงไม่ชอบยิงเลเซอร์ครั­บ 555

ยิงเลเซอร์ smoothbeam เจ็บขนาดไหน?? เจ็บทนได้แน่นอนครับ น้อยกว่าการกดสิว ฉีดสเตียรอยด์มากๆครับ คนไข้ที่มาหาหมอพอยิงsmoothbeamเสร็จ แทบทุกคนบอกว่าเจ็บน้อยกว่าที่อ่านรีวิวมา­เยอะมากๆครับ

แล้วสิวเห่อ เกิดจากอะไร ?? ประเด็นนี้สำคัญที่สุดครับ สิวเห่อ เกิดจากการที่หมอรักษาคนไข้โดยไม่ใช้สเตีย­รอยด์ โดยส่วนใหญ่คนไข้ที่มาหาผมจะติดสเตียรอยด์­อยู่แล้วไม่ต่ำกว่า90% พอไม่ให้สเตียรอยด์ปุ้บ สิวก็เห่อครับ (เหมือนคนไข้ติดยาลดความอ้วนมารักษา พอไม่ให้ยาลดความอ้วนน้ำหนักก็เลยขึ้น) สิวเห่ออันนี้เป็นปกติครับ แต่ที่ต้องยอมให้เห่อก็เพราะว่าต้องการเลิ­กสเตียรอยด์ครับ

 

อยากเลิกสเตียรอยด์แบบจริงๆ ไม่ใช่ค่อยๆลดยา หรือ ติดยาแบบไม่รู้ตัว มาปรึกษาเรา SVJ clinic ได้ทุกวันครับ

www.svjclinic.com
026583838

:: Share This ::

การรักษาสิว vs การลดความอ้วน

สมัยก่อนเมื่อราว 10 ปีที่แล้วการกินยาลดความอ้วนเป็นที่นิยมกันมากๆ เหมือนการรักษาสิวสมัยนี้ เหตุที่นิยมกันก็เพราะ
กินยาแปบเดียวลดได้สัปดาห์ละ2-3กิโล แบบนี้เป็นใครก็อยากผอมกันทั้งนั้นล่ะครับ คลินิกแพทย์ก็เปิดรักษา
ลดความอ้วนกันทุกคลินิก ทำกันเป็นแฟชั่น ไม่ต่างกับคลินิกรักษาสิวและความงามในปัจจุบัน แต่สุดท้ายแล้วก็อยู่ไม่ได้ครับ
เพราะโทษของยาลดความอ้วนส่งผลเสียกับร่างกายมากกว่าข้อดี จึงทำให้กระแสการลดความอ้วนด้วยยาหมดไปอย่างรวดเร็วประมาณ 2-3 ปี ซึ่งขณะนี้กระแสของการทำหน้าใส ไร้สิว โดยใช้สเตียรอยด์ เริ่มเข้ามาสู่วัฐจักรคล้ายๆยาลดความอ้วนแล้วครับ

หมอลองเปรียบเทียบวิธีการรักษาสิวกับการลดความอ้วนมาให้ดูกันครับ
ฉีดสเตียรอยด์ ทาสเตียรอยด์ = ยาลดความอยากอาหาร
กินยาโรแอคคิวเทน = ยาเพิ่มการทำงานของหัวใจ
ยาคุมกำเนิด ลดสิว หน้ามัน = ยาฮอร์โมนไทรอยด์
กดสิว แต้มสิว = ยาขับปัสสาวะ

สุดท้ายวิธีลดความอ้วนที่ดีที่สุดก็คือ การออกกำลังกายซึ่งช้ากว่าจะเห็นผล เหมือนกับ การรักษาสิวที่ svj รักษาอยู่โดยไม่ใช้
สเตียรอยด์ ช้าแต่เห็นผลครับ ขอบคุณคนไข้ที่อดทนในการรักษาสิวกับหมอทุกๆคนครับที่ยอมอดทนกัน

รู้อย่างนี้แล้วเราควรรักษาสิวโดยวิธีใด????”

12/07/2014
นพ.วิสิฏฐ ศรีสนิท

 

:: Share This ::

ได้อย่างเสียอย่าง

บทความนี้หมอเขียนถึงการรักษาสิวใน2รูปแบบ
1. สิวหายเร็วแต่ผิวบางและติดยา
2. ผิวแข็งแรงแต่สิวหายช้า

เราจะเลือกทางไหนครับ

1. รูปแบบแรกของการรักษาที่เน้นไปในเรื่องสิวอย่างเดียว คือ กดสิว ฉีดสิวด้วยสเตียรอยด์ ทายาลบรอย ทำทรีตเมนต์ กินยาแอคิวเทน พวกนี้ทำให้สิวยุบเร็ว ทำปุ้บพรุ่งนี้หายปั้บ แต่ระยะยาวไม่เคยทำให้สิวหายขาด เพราะ เน้นแค่รักษาสิวเพียงอย่างเดียวแต่ทำใหัผิวบาง อ่อนแอลง กลายเป็นผิวแวมไพร์ ออกแดดไม่ได้แพ้ง่าย
2. อีกรูปแบบนึง คือการเน้นทำให้ผิวแข็งแรง เพื่อที่จะไม่ต้องเป็นสิวอีกต่อไป การรักษาวิธีนี้ต้องใช้ความอดทน เห็นผลช้า บางครั้งช้าจนคิดว่ารักษาไม่หายแล้ว ซึ่งการรักษาแบบนี้ฟังดูดีแต่ทำได้ยาก การรักษามุ่งเน้นถึงการปรับตัวเปลี่ยนระบบการดูผิว ทั้งการล้างหน้า งดอาหารที่ทำใหัเกิดสิว พักผ่อนนอนเร็ว ออกกำลังกาย และการเลิกทาครีม ใช้แสงในการรักษาซึ่งเป็นแนวทางการรักษาของ SVJ ที่เราทำมาเกือบ 10 ปีแล้วครับ

ลองตรองกันดูครับว่าจะเลือกวิธีไหนในการดูแลผิวของเรา ได้อย่างก็เสียอย่างเสมอครับ

:: Share This ::

การดูแลสิว กับ การบำรุงให้ผิวแข็งแรง

ฟังดูเหมือนจะคล้ายกันและเป็นแนวทางเดียวกันนะครับ เรื่อง การดูแลสิว และ การบำรุงให้ผิวแข็งแรงเรามักคิดว่าการเกิดสิวเพราะว่าผิวไม่แข็งแรง ดังนั้น เมื่อรักษาสิวให้หายก็จะทำให้ผิวแข็งแรงตามไปด้วยเท็จจริงเป็นอย่างไร??ฟังดูเหมือนจะคล้ายกันและเป็นแนวทางเดียวกันนะครับ เรื่อง การดูแลสิว และ การบำรุงให้ผิวแข็งแรงเรามักคิดว่าการเกิดสิวเพราะว่าผิวไม่แข็งแรง ดังนั้น เมื่อรักษาสิวให้หายก็จะทำให้ผิวแข็งแรงตามไปด้วยเท็จจริงเป็นอย่างไร??

จริงๆแล้วการยิ่งรักษาสิวด้วยการทายา กดสิว ทำทรีตเมนท์ ฉีดสเตียรอยด์ ยิ่งทำให้ผิวอ่อนแอลง ทำให้สิวหายแต่ไม่หายขาดเพียงแต่หายเร็ว หายไปได้แค่ชั่วขณะนึง เดี๋ยวก็กลับมาเป็นใหม่ และ หนักกว่าเดิม เพราะเหตุผลใดเหรอครับที่ทำให้สิวไม่หายขาด ??

คำตอบคือ เพราะการรักษาสิวด้วยวิธีการทายาบนใบหน้า ทำให้ผิวบางลง พอผิวบางลงผื่นและสิวก็ขึ้นง่าย สิวขึ้นมาใหม่ก็ต้องกลับไปทายาให้สิวหายพร้อมทำให้ผิวบางลง วนเวียนเป็นวัฐจักรอย่างนี้ไม่จบสิ้น ดังนั้นถ้าเราจะรักษาสิวควรเริ่มจากหลักคิดที่ทำใหัผิวแข็งแรงควบคู่ไปด้วย จึงจะทำให้สิวหายขาดครับ

                                                                                               ตัวอย่างยารักษาสิว

 ยาทาก่อนล้างหน้า bp กลุ่มนี้กัดผิวอย่างรุนแรง ลองทดสอบได้โดยการเอาครีม bp
ไปป้ายกับเสื้อผ้ามีสีผ้าจะถูกกัดสีจนด่าง

 

ยาทาลบรอย กลุ่มนี้มักประกอบด้วยสารฟอกขาว เช่น AHA BHA ยิ่งทายิ่งลอกผิว

 

 

 

 


กลุ่มยาทาก่อนนอน พวกกรดวิตามิน เอ ทาช่วงแรกๆจะทำให้comedo ผุดออกมา สิวเห่อ หน้าแห้ง ใช้ไปนานๆพอผิวหน้าทนได้ สิวจะดีขึ้น แต่เลิกใช้สิวกลับมาเหมือนเดิม พร้อมผิวที่บางลง ไวต่อแสงมากขึ้น

 

 

ยาแก้แพ้ 5วัน7วัน อันนี้น่ากลัวที่สุด เพราะเป็นสเตียรอยด์ ทาแล้วผื่นยุบเลย หน้าใสทันที
ยิ่งทายิ่งติดใจ แต่เลิกไม่ได้ ไปหาหมอ หมอจะให้ทามากขึ้นเรื่อยๆเปลี่ยนชนิดของยา
ให้แรงขึ้นเพื่อคุมอาการแพ้ให้อยู่

อ่านแล้วเหนื่อยครับ ผมก็เหนื่อยในการรักษาสิวโดยทำให้ผิวแข็งแรง เพราะมันไม่ง่ายไม่เร็วเหมือนการใช้ยา
โดยเฉพาะสเตียรอยด์

:: Share This ::

แพ้สเตียรอยด์ กับ ติดสเตียรอยด์ ต่างกันอย่างไร

วันนี้หมอมีเรื่องเล่าจากคนไข้คนนึงมาเล่าให้ฟังครับ คนไข้อายุ31ปี เป็นคุณผู้หญิงที่ผิวสวยมาก ไม่เคยเป็นสิวเลยจนมาช่วงปีนึงที่ผ่านมามีเพื่อนแนะนำให้ทาครีมหน้าใสยี่ห้อนึง วันนี้หมอมีเรื่องเล่าจากคนไข้คนนึงมาเล่าให้ฟังครับ คนไข้อายุ31ปี เป็นคุณผู้หญิงที่ผิวสวยมาก ไม่เคยเป็นสิวเลยจนมาช่วงปีนึงที่ผ่านมามีเพื่อนแนะนำให้ทาครีมหน้าใสยี่ห้อนึง

วันนี้หมอมีเรื่องเล่าจากคนไข้คนนึงมาเล่าให้ฟังครับ คนไข้อายุ31ปี เป็นคุณผู้หญิงที่ผิวสวยมาก ไม่เคยเป็นสิวเลยจนมาช่วงปีนึงที่ผ่านมามีเพื่อนแนะนำให้ทาครีมหน้าใสยี่ห้อนึง ทาไปได้แค่1เดือนหน้าใสและขาวมากอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อนทาไปอีก3เดือนหน้าขาวสุดยอดจนทั่งเจ้าของครีมขอไปเป็นนางแบบโฆษณาครีม จนกระทั่งมีข่าวเรื่องครีมหน้าขาวมีสารสเตียรอยด์ผสมอยู่คนไข้ถึงรู้ตัวว่าตนเองขาวได้เพราะสเตียรอยด์จึงได้ทำการเลิกทาครีม หลังจากนั้นก็เริ่มมีผื่นขึ้น มีสิวผดแดงๆตามมา คนไข้จึงได้ไปทำการรักษาที่คลินิกแห่งหนึ่ง หมอบอกว่า มีอาการแพ้สเตียรอยด์จากครีมหน้าขาว!!! หมอจึงทำการรักษาด้วยการให้ยาแก้แพ้ ซึ่งก็คือ สเตียรอยด์นั่นเอง พร้อมกับบอกว่า จะลดปริมาณการใช้ยาสเตียรอยด์ลงให้เร็วที่สุด หลังทายาของหมอ3-4วันอาการผื่นก็ดีขึ้นอย่างรวดเร็ว แต่ไม่สามารถที่จะเลิกยาได้
ซ้ำร้ายรอบนี้ถ้าหยุดยาทายิ่งทำให้ผื่นขึ้นมากกว่าเดิม คนไข้เห็นว่าอาการไม่ดีขึ้น จึงมาพบผมในวันนี้ครับ

สิ่งที่ผมตอบคนไข้ไปคือ

  • คนไข้ไม่ได้ แพ้สเตียรอยด์ แต่มีอาการติดสเตียรอยด์ คำว่า แพ้ยา คือ ยาดีแต่ตัวเราไม่ดี แต่คำว่า ติด คือ ยาไม่ดี แต่ตัวเราดี  อย่าไปคิดว่าผิวเราอ่อนแอครับผิวหนังคนเรา95%เกิดมาแข็งแรง ไม่ใช่อ่อนแอแพ้ง่าย การรักษาอาการ แพ้สเตียรอยด์ คือ การเปลี่ยนชนิดของสารสเตียรอยด์ที่แพ้ เป็นสเตียรอยด์ชนิดใหม่ที่ไม่แพ้  สรุปก็รักษาโดยได้สเตียรอยด์อีก อย่าไปเชื่อครับ
  • การรักษาอาการติดสเตียรอยด์ คือ การทำให้คนไข้เลิกใช้สเตียรอยด์ ไม่มีการใช้สเตียรอยด์ในการรักษาอาการติดยาสรุปคิอ เป็นภาวะเดียวกันครับ แต่ถ้าบอกว่าติดวิธีการรักษาคือเลิก แต่ถ้าบอกว่าแพ้ การรักษาคือ เปลี่ยนชนิดของยา

Tip สำหรับแพทย์ปฏิบัติ
บริบทของการรักษาผิวหนังที่ติดสเตียรอยด์ คือ การยอมรับว่าเรามีอาการติดยา และ ต้องทำทุกวิธีทางเพื่อที่จะให้เลิกการใช้ยาให้ได้โดยการไม่ให้สเตียรอยด์กับคนไข้เลย ไม่ใช่บอกคนไข้ว่าเป็นการแพ้สเตียรอยด์เพื่อเป็นข้ออ้างในการให้ยาสเตียรอยด์แก่คนไข้ อย่าไปคิดว่ารักษาให้หายด้วยสเตียรอยด์ก่อนแล้วค่อยๆลด dose ยา ทำอย่างนี้จะยิ่งทำให้คนไข้ติดยามากขึ้นครับ

นพ. วิสิฏฐ ศรีสนิท
Director of SVJ clinic

:: Share This ::

เรื่องสิว ไม่ใช่เรื่องใหญ่ แล้วล่ะค่ะ …ที่นี่ มีคำตอบ

อย่างที่ทุกคนรู้จัก…สิว…. กันดีอยู่แล้วว่า เกิดจากต่อมไขมันทำงานมากเกินพอดีในบางคน โดยเฉพาะวัยรุ่น จนบางทีทิ้งร่องรอยให้เรากังวลกันอยู่นานเลยทีเดียวค่ะอย่างที่ทุกคนรู้จัก…สิว…. กันดีอยู่แล้วว่า เกิดจากต่อมไขมันทำงานมากเกินพอดีในบางคน โดยเฉพาะวัยรุ่น จนบางทีทิ้งร่องรอยให้เรากังวลกันอยู่นานเลยทีเดียวค่ะ

อีกทั้ง….สเตียรอยด์…ตัวร้าย ที่วัยรุ่นทุกคนอาจสัมผัสมาโดยเราไม่รู้ตัวเสียด้วยซ้ำ แอบทำร้ายเราอยู่เงียบๆ รู้ตัวอีกทีก็…สายเสียแล้ว  ชั้นผิวหนังบางลงจนเห็นเส้นเลือดชัดขึ้น  เกราะที่ปกป้องสิ่งรบกวนจากภายนอก ก็อ่อนแอลง ที่สำคัญสิวเจ้ากรรมก็โผล่ขึ้นโดยเราไม่ได้รับเชิญ ยิ่งหลังจากหยุดครีมที่อาจมีส่วนผสมของสเตียรอยด์ดังกล่าว  รบกวนจิตใจกันนานแสนนานจนบางคนหวนกลับไปใช้ตามเดิม สุดท้ายก็ไม่สามารถโบกมือลาสิวได้อย่างถาวร

  • ปัจจุบันเรามีเครื่องมือที่นำมาใช้รักษาต้นตอของการเกิดสิว ก็คือ..ต่อมไขมันที่ทำงานมากเกินไปนั่นเอง smoothbeam laser เป็น long-pulse diode laser ความยาวคลื่น 1450 นาโนเมตร  ส่งผ่านความร้อนไปยังต่อมไขมันใต้ผิวหนัง ทำให้สร้างน้ำมันส่วนเกินลดลง  ลดปัญหาการเกิดสิวอุดตันได้อย่างตรงจุดโดยไม่ทำลายผิวชั้นนอก  และยังสามารถฆ่าเชื้อสิว (P.acne ) ที่ชอบฝังตัวอยู่ตามท่อต่อมไขมันเป็นต้นเหตุของสิวอักเสบเป็นสาเหตุของรอยแดง รอยหลุมสิวตามมาถ้าหากไม่ได้รับการรักษาอย่างทันท่วงที  อีกทั้งยังเป็นอีกทางเลือกในการรักษารอยหลุมแผลเป็น ในขณะที่เลเซอร์ผ่านลงไปเกิดความร้อนใต้ผิวหนัง ซึ่งสามารถช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนได้แต่อาจได้ผลดีในระดับหนึ่ง
  • กับอีกหนึ่งเลเซอร์ที่ดีที่สุดที่ช่วยในการดูแลเรื่องสิวและรอยสิว ก็คือ Vbeam เป็น Pulsed dye laser ความยาวคลื่น 595 นาโนเมตร เลเซอร์ชนิดนี้จะไปทำให้เส้นเลือดหดตัว และเกิดการจัดเรียงตัวใหม่ได้ดีขึ้น  ทำให้รอยจางลงได้ตั้งแต่ในครั้งแรก และดีขึ้นตามลำดับ และยังสามารถรักษาผิวบางที่เกิดจากการใช้สเตียรอยด์มาเป็นเวลานาน  ถ้าผิวเราแข็งแรงขึ้น สร้างคอลลาเจนได้มากขึ้น การแพ้  การระคายเคือง จนกระทั่งสิว จะไม่สามารถลุกล้ำบนใบหน้าเราได้อย่างแน่นอนร่วมกับหยุดการรบกวนผิวด้วยสารเคมีที่ระคายผิว เช่น ครีมหรือเครื่องสำอางที่ไม่มั่นใจว่าปลอดภัย  หยุดการแคะแกะเกา  และล้างหน้าอย่างถูกวิธี

…. เพียงแค่นี้ เรื่องสิว ก็จะไม่เป็นปัญหาสำหรับคุณอีกต่อไป …

คุณหมอสิรภัทรา

:: Share This ::