การจะทำสิวให้หายขาดนั้นมีหลักการสำคัญ คือ 1. สิวต้องหาย และ 2.ผิวต้องแข็งแรง
โดยหลักการคร่าวๆคือ
- ล้างหน้าให้ถูกวิธี
- งดพฤติกรรมที่ทำให้เกิดสิว
- งดเลิกการรักษาสิวที่ทำให้ผิวอ่อนแอ
ลองติดตามข้อมูลได้ในคลิปของคุณหมอวิสิฏฐ เลยค่ะ มี 2 ตอนนะคะ
SVJ Clinic :: เอสวีเจคลีนิค :: ศูนย์รักษาสิวด้วยเลเซอร์
คลินิกเลเซอร์ผิวหนังที่ไม่ใช้สเตียรอยด์ในการรักษา
วัฐจักรเป็นอย่างไรคะ ??
สรุปว่าใน1เดือนหน้าจะเยินจากแผล co2 1 สัปดาห์ ผิวสวย 2 สัปดาห์ ที่เหลือ 1 สัปดาห์คือการรอให้สิวใหม่เกิดขึ้น
ทำไมถึงเกิดวัฐจักรเหล่านี้ กดแล้วสิวขึ้นมาใหม่อีก ??
เพราะโพรงขนของมนุษย์บนใบหน้ามีทั้งหมดไม่น้อยกว่า100,000โพรงการรักษาสิวโดยการเจาะสิวไม่มีทางที่จะเจาะได้ทั้งหมด 100,000โพรง. และการเจาะสิวยิ่งทำให้โพรงขนเสียหาย การเกิดซ้ำยิ่งง่าย ทำให้การเจาะสิวเป็นวิธีการทำให้สิวหายได้ชั่วคราวเท่านั้น
ทำไมหมอส่วนใหญ่ต้องใช้วิธีนี้ในการรักษา ??
เพราะมันให้ความรู้สึกว่าหายเร็ว คนไข้มักเปรียบเทียบความเก่งกาจของหมอกับผลลัพธ์ในการรักษาระยะสั้นไม่ค่อยคิดถึงผลระยะยาว หมอที่คิดสั้นๆเร็วๆจึงชอบการเจาะสิวมากกว่าวิธีอื่นๆ คนไข้ส่วนนึงจึงต้องรับผลเสียในระยะยาวต่อไป
จะทำอย่างไรให้หลุดจากวัฐจักรนี้ให้ได้ ??
ต้องยอมอดทนครับ ยอมหายช้าหน่อย ไม่กดเจาะฉีดสิว รับรองว่าหลุดจากวัฐจักรนี้ได้แน่นอน
ปัจจุบันมีเทคโนโลยีของเลเซอร์ที่ช่วยในการรักษาสิวอุดตันสิวอักเสบแต่ไม่ใช่การเจาะสิวแบบ co2 มาใช้ในการรักษาคนไข้ปลอดภัยแต่ต้องใช้เวลา ดังนั้นสิวอุดตันสิวอักเสบหายได้โดยไม่ต้องเจาะสิวครับ
นพ.วิสิฏฐ ศรีสนิท
SVJ Clinic
หลุมสิวปัญหาจากการรักษาสิวที่ไม่ดีพอ ส่วนใหญ่เกิดจากการกดสิว ฉีดสเตียรอยด์
หลุมสิวเป็นปัญหาที่แก้ยากครับ เป็นแล้วไม่สามารถแก้ไขให้เหมือนเดิมได้ 100%
แต่สามารถทำให้ดีขึ้นได้มากกว่า50%
ดังนั้นใครบอกว่ารักษาหลุมสิวแล้วหาย100% อย่าเชื่อครับ พูดเพื่อหลอกล่อให้ความหวังมากกว่าครับ
เทคโนโลยี่ในอดีตถึงปัจจุบันมีอะไรบ้างในการรักษาหลุมสิว หมอเรียงลำกับตามประสิทธิภาพเลยครับ
1. ทาครีม
2. ทรีตเมนต์
3. กรอเกร็ดอัญมนี หรือ MD หรือ Mtcrodermabrasion
4. เลาะพังผืดใต้ผิวหนัง ข้อเสียคือ พักหน้านาน และเสี่ยงติดเชื้อเกิดแผลเป็นใหม่
5. Dermaroller ไม่ผ่านอย.
6. laser rejuvenation – Smoothbeam , IPL , yag laser
7. Fractional laser – Fraxel ดีที่สุด , Ematrix , Erbium laser , CO2 fractional
ในปัจจุบันผมแนะนำเทคนิค Fractional laser เพียงอย่างเดียวครับ เพราะอย่างอื่นไม่ค่อยเห็นผลหรือ ไม่เห็นผลเลย
มีคนไข้ของผมที่ชอบอ่านอินเตอร์เนตกังวลว่า ยิงsmoothbeam laser แล้วจะทำให้สิวเห่อ ทำให้กลัวที่จะยิงเลเซอร์ smoothbeam ในครั้งแรก บางคนตัดสินใจอยู่นานกว่าจะมาหาผมเพราะกลัวสิวเห่อ แท้จริงแล้วคืออะไรครับ??
เลเซอร์smoothbeam คืออะไรคะ??? Smoothbeam เป็นเลเซอร์ที่มีความยาวคลื่น 1450nm ซึ่งความยาวคลื่นอันนี้จะไปทำให้ต่อมไขมันใต้ผิวหนังทำงานลดลง และยังช่วยฆ่าเชื้อสิวใต้ผิวหนังอีกด้วย ดังนั้นคนไข้ของผมที่มีสิวอักเสบขึ้นมาเค้าจะมายิงเลเซอร์smoothbeam ทันทีหลังสิวขึ้นแทนการฉีดสเตียรอยด์
แล้วทำไมถึงมีความเชื่อว่า smoothbeam ทำให้สิวเห่อ ?? อันนี้หมอไม่แน่ใจเหมือนกันครับ ว่าความเชื่อนี้เกิดขึ้นมาจากที่ไหน แต่มันเหมือนไวรัสอินเตอร์เนตเลยครับ ลุกลามไปอย่างรวดเร็ว หมอสันนิษฐานว่า เวลายิงเลเซอร์ smoothbeam แล้วคงเจ็บเหมือนโดนหนังสติ้กดีด เลยทำให้คนไข้กลุ่มนึงไม่ชอบยิงเลเซอร์ครับ 555
ยิงเลเซอร์ smoothbeam เจ็บขนาดไหน?? เจ็บทนได้แน่นอนครับ น้อยกว่าการกดสิว ฉีดสเตียรอยด์มากๆครับ คนไข้ที่มาหาหมอพอยิงsmoothbeamเสร็จ แทบทุกคนบอกว่าเจ็บน้อยกว่าที่อ่านรีวิวมาเยอะมากๆครับ
แล้วสิวเห่อ เกิดจากอะไร ?? ประเด็นนี้สำคัญที่สุดครับ สิวเห่อ เกิดจากการที่หมอรักษาคนไข้โดยไม่ใช้สเตียรอยด์ โดยส่วนใหญ่คนไข้ที่มาหาผมจะติดสเตียรอยด์อยู่แล้วไม่ต่ำกว่า90% พอไม่ให้สเตียรอยด์ปุ้บ สิวก็เห่อครับ (เหมือนคนไข้ติดยาลดความอ้วนมารักษา พอไม่ให้ยาลดความอ้วนน้ำหนักก็เลยขึ้น) สิวเห่ออันนี้เป็นปกติครับ แต่ที่ต้องยอมให้เห่อก็เพราะว่าต้องการเลิกสเตียรอยด์ครับ
อยากเลิกสเตียรอยด์แบบจริงๆ ไม่ใช่ค่อยๆลดยา หรือ ติดยาแบบไม่รู้ตัว มาปรึกษาเรา SVJ clinic ได้ทุกวันครับ
www.svjclinic.com
026583838
ทำไมถึงเริ่มเป็นสิวตอนอายุ30??
เหตุผลก็คือผิวบางจากการลอกผิวครับ
จากประสบการณ์ของหมอ เวลาคนไข้อยู่ในกระบวนการลอกผิว เช่น
– การทำทรีทเมนต์
– การmask หน้า
– การทาครีม
กระบวนการต่างๆเหล่านี้จะใช้เวลาประมาณ 5-10ปี ในการกัดผิวให้บาง ซึ่งเมื่อมาคำนวนตามอายุแล้วโดยส่วนใหญ่คนเรามักสนใจดูแลผิวหน้าตอนอายุประมาณ 20 ปี บวกไปอีก10ปีที่ขัดหน้าให้บางก็เท่ากับ 30 ปีพอดี จึงเป็นเหตุผลทำให้สาวๆอายุ30ปีจึงกลับมาเป็นสิวอีกครั้งและเป็นมากกว่าเดิม
เป็นสิวอายุ 30 จากฮอร์โมน??
อันนี้ไม่จริงเลยครับ ช่วงฮอร์โมนเปลี่ยนนั่นคือ ช่วงวัยรุ่น 15-20 ปี และอีกช่วงคือ วัยหมดประจำเดือนคือ 45 ปีขึ้นไป
ดังนั้นถ้าอายุ 30 แล้วเป็นสิวฮอร์โมนนั้นไม่น่าจะจริง
เป็นสิววัย 30 ทำไมถึงติดสเตียรอยด์ได้ง่าย??
เป็นเพราะจากข้อแรกที่สาวๆส่วนใหญ่ขัดผิวจนบาง ปัญหาผิวบางและเป็นสิวจึงไม่สามารถแก้ไขได้ด้วยยารักษาสิวตามปกติ ต้องใช้สเตียรอยด์ในการรักษาจึงจะทำให้หายเร็ว แต่ยิ่งใช้สเตียรอยด์ก็ยิ่งทำให้ผิวบางจึงทำให้การรักษาสิววัย30ยิ่งรักษายิ่งแย่ลง ติดหมอ ติดยา ติดสเตียรอยด์
จะทำอย่างไรในการรักษาสิววัย 30 ให้ถูกต้อง???
การรักษาสิววัย30ที่มีอาการผิวบางร่วมด้วยจึงต้องเป็นการรักษาสิวที่ไม่ทำให้ผิวบาง และต้องไม่ใช้สเตียรอยด์ ซึ่ง SVJ clinic
เรารักษาคนไข้สิวโดยไม่ใช้สเตียรอยด์แบบ 100% ด้วยความจริงใจ ไม่ใช่บอกว่าไม่ใช้สเตียรอยด์แต่จริงๆแล้วแอบให้ยาสเตียรอยด์โดยคนไข้ไม่รู้ อันนั้นไม่ใช่เราแน่นอนครับ
นพ. วิสิฏฐ ศรีสนิท
SVJ clinic
สมัยก่อนเมื่อราว 10 ปีที่แล้วการกินยาลดความอ้วนเป็นที่นิยมกันมากๆ เหมือนการรักษาสิวสมัยนี้ เหตุที่นิยมกันก็เพราะ
กินยาแปบเดียวลดได้สัปดาห์ละ2-3กิโล แบบนี้เป็นใครก็อยากผอมกันทั้งนั้นล่ะครับ คลินิกแพทย์ก็เปิดรักษา
ลดความอ้วนกันทุกคลินิก ทำกันเป็นแฟชั่น ไม่ต่างกับคลินิกรักษาสิวและความงามในปัจจุบัน แต่สุดท้ายแล้วก็อยู่ไม่ได้ครับ
เพราะโทษของยาลดความอ้วนส่งผลเสียกับร่างกายมากกว่าข้อดี จึงทำให้กระแสการลดความอ้วนด้วยยาหมดไปอย่างรวดเร็วประมาณ 2-3 ปี ซึ่งขณะนี้กระแสของการทำหน้าใส ไร้สิว โดยใช้สเตียรอยด์ เริ่มเข้ามาสู่วัฐจักรคล้ายๆยาลดความอ้วนแล้วครับ
หมอลองเปรียบเทียบวิธีการรักษาสิวกับการลดความอ้วนมาให้ดูกันครับ
ฉีดสเตียรอยด์ ทาสเตียรอยด์ = ยาลดความอยากอาหาร
กินยาโรแอคคิวเทน = ยาเพิ่มการทำงานของหัวใจ
ยาคุมกำเนิด ลดสิว หน้ามัน = ยาฮอร์โมนไทรอยด์
กดสิว แต้มสิว = ยาขับปัสสาวะ
สุดท้ายวิธีลดความอ้วนที่ดีที่สุดก็คือ การออกกำลังกายซึ่งช้ากว่าจะเห็นผล เหมือนกับ การรักษาสิวที่ svj รักษาอยู่โดยไม่ใช้
สเตียรอยด์ ช้าแต่เห็นผลครับ ขอบคุณคนไข้ที่อดทนในการรักษาสิวกับหมอทุกๆคนครับที่ยอมอดทนกัน
รู้อย่างนี้แล้วเราควรรักษาสิวโดยวิธีใด????”
12/07/2014
นพ.วิสิฏฐ ศรีสนิท