ป้ายกำกับ: รักษาสิว

โรแอคคิวเทน คือยาอะไร ??
ชื่อสามัญของยาคือ isotretinoin เป็นกรดวิตามินเอ ชนิดหนึ่ง  มีชื่อการค้าหลากหลาย เช่น แอคคิวเทน แอคโนติน
ลักษณะเม็ดยาเป็น ลูกรักบี้

Isotretinoin เป็นยากินที่ใช้ในการรักษาสิวในกรณีที่เป็นอย่างรุนแรงเท่านั้น เพราะมันมีผลข้างเคียงต่อร่างกายมหาศาล ไม่คุ้มที่จะกินเพื่อรักษาสิวที่ไม่รุนแรง แต่ในปัจจุบันมีการนำยาชนิดนี้มารักษาสิวกันอย่างพร่ำเพรื่อ เกินความจำเป็น บ้างอวดอ้างสรรพคุณว่ากินครบโดสแล้วจะไม่เป็นสิวอีกเลย ตามประสบการณ์ของผู้เขียนพบว่า ไม่เป็นความจริง ทั้งยังทำให้การเห่อของสิวเมื่อขาดยาเป็นรุนแรงมากกว่าเดิม ดังนั้นผู้เขียนจึงเลิกใช้ยาชนิดนี้มารักษาคนไข้นานกว่า 10 ปีแล้ว

ผลข้างเคียงของ Isotrtinoin
1. ผมร่วง
2. ไม่สูง เพราะยาทำให้แกนกระดูกปิดตัวเร็วจึงต้องระมัดระวังในการให้ยาในเด็ก
3. ปากแห้ง ผิวหนังแห้ง ตาแห้ง จมูกแห้ง พบเกือบทุกราย หมอเคยพบคนไข้ที่ใส่คอนแทคเลนส์แล้วตาแห้งมากเกิดปัญหาการติดเชื้อตามมา
4. มีอาการเครียด ซึมเศร้า หดหู่ แนวโน้มการฆ่าตัวตายเพิ่มขึ้น
5. ตับพัง ไขมันในเลือดสูง
6. เป็นเก๊าท์ จากยูริคที่สูงขึ้น

นพ.วิสิฏฐ ศรีสนิท

SVJ clinic

ปัญหาหลุมสิวเป็นปัญหาความสวยงามที่พบได้บ่อยมาก คนไหนที่เป็นก็เป็นทุกข์ หมดความมั่นใจ และด้วยความที่แก้ไขยาก
ทำให้คนไข้หลายๆคนพยายามรักษาเท่าไหร่ก็ไม่ดีขึ้นจนหมดกำลังใจในการรักษา ต้องจมอยู่กับความเซ็งที่ต้องเป็นหลุม
ตามประสบการณ์ที่หมอรักษาหลุมสิวมามากกว่า10ปี รวมทั้งรักษาตัวเองด้วยเพราะผมก็เป็นหลุมสิว
หมอจะมาเล่าประวัติศาสตร์การรักษาหลุมสิวให้ฟังกันครับ

ยุคเริ่มต้นของการรักษาหลุม 10+ปีที่ผ่านมา
1. ครีมกระตุ้นหลุม โดยการทา ผลักวิตามิน ( Ionto Phono )
2. การลอกผิวชั้นบนด้วยสารเคมี ( AHA BHA TCA ) หรือ ลอกด้วยการขัดกรอผิว ( microdermabrasion )
3. การใช้เข็มเลาะพังผืดที่เรียกว่า ทำซับซีชั่น ( subcision )
4. การลอกผิวชั้นลึกด้วยกรดเข้มข้น ( Medium to Deep pelling )
ผลการรักษาของยุคเริ่มต้นนั้น ผลที่ได้ไม่ดีเลย การใช้ครีม การลอกผิวชั้นตื้นแทบไม่เห็นผล
ส่วนการรักษาที่ได้เห็นผล คือ การทำ subcision และการลอกผิวชั้นลึก ก็ทำให้เกิดผลข้างเคียงที่สูงมาก เช่น แผลติดเชื้อจากการเลาะพังผืด รอยดำจากการ peeling

ดังนั้นในยุคเริ่มต้นของการรักษาหลุมสิว จึงเป็นยุคที่เหนื่อยมากๆ การรักษาที่ไม่มีผลข้างเคียงก็ไม่เห็นผล การรักษาที่เห็นผลก็เสี่ยงกับผลข้างเคียงที่สูง สรุปโดยรวมคือการรักษายังไม่ลงตัว

นพ. วิสิฏฐ ศรีสนิท
SVJ clinic

ความต้องการในการรักษาสิว
# หายเร็ว
# หายขาด
# ผิวแข็งแรง

ในวัยรุ่นมักจะเลือกวิธีการใดๆก็ได้ที่จะทำให้สิวหายเร็ว โดยไม่คำนึงถึงการที่จะทำให้สิวหายขาดและผิวแข็งแรง ดังนั้นผลลัพธ์ที่ได้ส่วนใหญ่ คือ สิวในช่วงวัยรุ่นพอมารักษากับหมอก็หายเลิกรักษาก็เป็น ทำให้ต้องรักษาอย่างต่อเนื่อง จบช่วงวัยรุ่นแทนที่สิวจะหายกลับกลายเป็นว่าสิวยิ่งเป็นมากขึ้นกว่าเดิมในวัยทำงาน สาเหตุเกิดจาก การรักษาสิวที่ทำให้ผิวอ่อนแอ ซึ่งมีอยู่ 4 ข้อ

ข้อห้ามในการรักษาสิวที่ทำให้ผิวและร่างกายอ่อนแอ
1. กินยาในกลุ่มวิตามินเอ เช่น ยาโร ยาแอคโนติน
2. การฉีดสิวด้วยสเตียรอยด์
3. การกดสิว
4. การทาครีม ทำทรีตเมนต์
4 ข้อนี้ทำให้สิวหายแต่ผิวอ่อนแอ

ดังนั้นการดูแลสิวในช่วงวัยรุ่น เราควรใจเย็นๆหน่อย คิดถึงอนาคต พ้นวัย25 ฮอร์โมนวัยรุ่นหมดจะได้เลิกเป็นสิว
ไม่ใช่เป็นสิวไปจนอายุเลข3เลข4 สิวก็ยังไม่หาย

การดูแลสิวให้ถูกวิธี คือ การรักษาสิวแล้วทำให้ผิวแข็งแรง ซึ่งเป็นแนวทางที่หมอปฏิบัติกับคนไข้มาตลอดชีวิต
การเป็นแพทย์ผิวหนังครับ

นพ.วิสิฏฐ ศรีสนิท
SVJ clinic