fbpx

Vbeam คือเลเซอร์อะไร ??

Vbeam เป็นเลเซอร์ที่ให้พลังงานคลื่น 595nm ซึ่งคลื่น 595nm ในวงการผิวหนังถือว่าเป็นคลื่นที่ดีที่สุดในการรักษาโรค
ที่เกี่ยวกับเส้นเลือด ดังนั้นโรคปานแดง ไฝแดง แผลเป็นสีแดง จึงรักษาด้วย Vbeam จะดีที่สุด
รอยแดงสิว รอยดำสิว ก็เช่นกัน Vbeam เป็น Gold standard ในการรักษาผิวติดสเตียรอยด์ ผื่นแพ้ โรคเซ็ปเดิร์ม SVJ clinic
ทีมแพทย์ของเราได้คิดวิธีรักษาโรคยากๆเหล่านี้โดยไม่ต้องใช้สเตียรอยด์ เราจึงเป็นผู้นำของการใช้เลเซอร์ Vbeam ในประเทศไทย

Vbeam กับ IPL
เนื่องจากมีแสงเลเซอร์หลายชนิดที่ช่วยรักษารอยแดงสิวได้ แต่ถ้าเทียบความเข้มข้นของแสงแล้ว Vbeam จะมีพลังงานที่สูง และ จำเพาะกับรอยเส้นเลือดแดงบนสิวมากกว่า IPL หลายเท่า

Vbeam กับ SVJ
เราเป็นผู้นำในการใช้ Vbeam ในประเทศไทย  จากผลการสำรวจของ บ.บีมเมด SVJ clinic เป็นคลินิกและโรงพยาบาลที่ใช้
Vbeam Perfecta ในการรักษารอยแดงสิว ผิวติดสเตียรอยด์ ผื่นแพ้ โรคเซ็ปเดิร์ม มากที่สุดในประเทศไทย
มั่นใจในมาตรฐาน และ จริยธรรม ทางการแพทย์ กับ SVJ ได้เสมอ
026583838 สยาม
024344955 ปิ่นเกล้า
FB : svjlcinic
IG : svj_clinic

 

:: Share This ::

ดำไม่หายจากการทาครีมหน้าขาว

ครีมหน้าขาวคืออะไร??
การทาครีมเพื่อให้ผิวขาวขึ้นนั้นสามารถทำได้โดยการใส่สารต่างๆเข้าไปในครีมเพื่อหวังผลคือ
1. ลอกผิวชั้นบนออกทำให้หน้าขาวใสขึ้น ส่วนผสมเหล่านี้มักได้แก่ กรดชนิดต่างๆเช่น AHA BHA vitaminA
2. สารยับยั้งการสร้างเม็ดสี เช่น ไฮโดรควิโนน อัลบูติน ลิโครไลซ์
3. สารกลุ่มสเตียรอยด์
เมื่อมีการไปลอกผิวและยับยั้งการสร้างเม็ดสีก็จะทำให้สีผิวขาวใสขึ้น ในคนที่เป็นรอยสิวก็จะรู้สึกว่ารอยสิวนั้นแลดูจางลง
เหมือนคนที่เป็นฝ้า

ใช้ได้ติดต่อกันนานขนาดไหน??
ความจริงแล้วการใช้สารเหล่านี้ทำให้ผิวขาวขึ้นจริงแต่จะทำให้สภาพผิวอ่อนแอลง ผิวไม่สบาย แพ้ง่ายกลัวแสง อันนี้เป็นสิ่งที่ต้องแลกกับความขาว

ถ้าอย่างนั้นเลิกใช้แล้วผิวจะกลับมาแข็งแรงเหมือนเดิมหรือไม่??
ถ้าผิวยังไม่เสียหายมากจนเกินไปสามารถรักษาให้กลับมาแข็งแรงเหมือนเดิมได้ครับ แต่ต้องแลกกับการที่จะไม่ขาวใสเหมือนช่วงที่ทาครีม คือต้องเลือกเอาระหว่างผิวสบายหรือผิวขาว

มีภาวะแทรกซ้อนใดที่ถ้าใช้ครีมเหล่านี้ไปนานๆแล้วเกิดอันตรายกับผิวจนไม่สามารถแก้ไขได้มั้ย??
มีครับ ภาวะนี้ทางการแพทย์เราเรียกว่า orchronosis หรือรอยดำถาวรที่เกิดจากการลอกผิวด้วยครีม อาการคือจะมีรอยดำลักษณะคล้ายๆ สีเทาน้ำเงินเกิดขึ้นโดยส่วนใหญ่เริ่มต้นบริเวณแก้มก่อน รอยนี้เกิดจากการที่ผิวถูกขัดให้ขาวเป็นระยะเวลานาน ( อาจจะถึง10ปีก็เป็นได้ ) หลังจากผิวที่ถูกฟอกขาวนานเกินไปทำให้ระบบสมดุลย์ของผิวกับเม็ดสีเปลี่ยนไปเกิดเป็นรอยดำถาวรขึ้น

อาจารย์ช่วยอธิบายเรื่องราวแบบง่ายๆของคนไข้ที่เป็นรอยดำถาวรให้ฟังหน่อยได้มั้ยคะ??
ยกตัวอย่างคนไข้ละกันครับ มีคนไข้อยู้คนนึงเริ่มต้นจากการอยากผิวขาวใส จึงดูแลตัวเองด้วยการทาครีมบำรุงผิวตามท้องตลาด ทาไปก็รู้สึกดีขาวขึ้นชอบใจ ต่อมาอยากสวยมากกว่าเดิมจึงเข้าไปพบแพทย์สวยงาม แพทย์ทำการดูแลด้วยทรีตเมนต์ต่างๆซึ่งส่วนมากก็คือ AHA ยิ่งทำยิ่งสวยยิ่งขาวก็ทำสืบเนื่องกันมา ต่อมาผิวเสียสมดุลย์เริ่มมีรอยดำเกิดขึ้น พร้อมกับอายุที่มากขึ้น คนไข้กับหมอก็คิดว่าเป็นฝ้า การรักษาลอกฝ้ายิ่งดุเดือดมากขึ้น การลอกผิวใช้ยาที่รุนแรงมากขึ้น สุดท้ายเกิดภาวะ orchronosis หรือดำถาวรขึ้นมาครับ ส่วนใหญ่บทสรุปมักสรุปผิดแทนที่จะสรุปว่าดำถาวรจากการลอกผิวมากเกินไปกลายว่าเป็นจากฝ้าลึก เหตุการณ์ที่หมอเล่าทั้งหมดใช้เวลานานนับ10ปีครับ เพราะฉะนั้นการที่จะป้องกัน orchronosis จึงเป็นเรื่องยากเพราะถ้าจะป้องกันไม่ให้ดำถาวรได้คนไข้ต้องแลกกับผิวที่ไม่ขาวใสถึง10ปี

การป้องกัน orchronosis ทำได้อย่างไรคะ??
ต้องยึดหลักทำผิวให้สบาย normal skin ครับ
สวยใสแบบผิดธรรมชาติต้องเลี่ยงซึ่งยากในปัจจุบันครับ

นพ.วิสิฏฐ ศรีสนิท
SVJ Clinic

 

:: Share This ::

V Beam กับการแก้ปัญหาผิวหนังที่จัดว่าหิน

ปัญหาผิวหนังและความงามนั้นมีปัญหาหลายรูปแบบ ที่ง่ายนั้นก็มีมากแต่ที่ยากก็คิดว่าทุกคนคงรู้จักกันดี เช่น อาการแพ้และระคายเคืองง่ายทำให้ใบหน้าดูแดงอยู่เสมอ แผลเป็นจากสิว แผลเป็นนูน ความเหี่ยวย่นและการชราภาพของผิว

การแก้ปัญหาผิวหนังโดยเน้นเรื่องการดูแลปัญหาที่ผิวกำพร้าภายนอกนั้นทำกันมาเนิ่นนานทั้งนี้เพราะผิวหนังมีคุณสมบัติพิเศษที่สามารถผลัดเซลล์ผิวใหม่ได้ สารจำพวกที่นำมาขัด เช่น ผงละเอียด ( Beads ) สารที่ทำให้ลอก เช่น กรด AHA BHA หรือสารที่บำรุงผิวที่ประกอบด้วยเอนไซม์ และวิตามินจึงเป็นหลักของการดูแลผิวและความงาม หากเป็นโรคภัย เช่นการอักเสบก็มีการเน้นใช้สารแก้อักเสบที่ทำให้ผิวบาง เช่น สารจำพวกสเตียรอยด์มาระงับการอักเสบของผิงหนังชั้นนอกเป็นส่วนใหญ่ การพิจารณาหรือวางแผนเพื่อแก้ปัญหาจากภายในไม่สามารถทำได้ดีนัก มีข้อจำกัดอยู่ที่การกินยา หรืออาหารเสริมเท่านั้น

ใต้ผิวหนังของเราลงไปเป็นผิวชั้นหนังแท้ที่มีเส้นเลือดเป็นหลักสำคัญ เหมือนอวัยวะภายในทุกชนิด เส้นเลือดเหล่านี้ความจริงแล้วก็จะไปกำหนดควบคุมการสร้างหรือการจัดระเบียบเซลล์อื่นทั้งหมดไม่ว่าจะเป็น โพรงขน ต่อมไขมัน รวมถึงใยคอลลาเจนและใยอีลาสติน ดังนั้นแพทย์ผิวหนังและนักวิทยาศาสตร์ทางด้านนี้ต่างคิดว่าต้องมีสักวันที่เราจะสามารถหาวิธีควบคุมเส้นเลือดภายใต้ผิวหนังให้ได้ ซึ่งหากทำได้จะเป็นการพัฒนาให้การดูแลปัญหาผิวพรรณและผิวหนัง ขึ้นไปสู่มิติใหม่

หากเราเปรียบเทียบกับวงการแพทย์ด้านอื่นแล้วก็จะเห็นความสอดคล้องกัน ทางด้านหัวใจเรื่องที่สำคัญที่สุดในปัจจุบันก็คือการดูแลไม่ให้เส้นเลือดที่ไปหล่อเลี้ยงหัวใจตีบ ทางด้านโรคไตก็เป็นการฟื้นฟูเส้นเลือดที่รวมตัวกันเป็นก้อนไตให้สามารถทำงานกรองของเสียได้ ทางด้านสมองก็เป็นการควบคุมการทำงานของเส้นเลือดที่ไปเลี้ยงสมองให้สมบูรณ์เพื่อแก้ปัญหาอัมพาต และทางด้านมะเร็งก็คือการควบคุมไม่ให้เซลล์มะเร็งสามารถสร้างสารกระตุ้นให้มีการสร้างเส้นเลือดเฉพาะมาหล่อเลี้ยงให้มะเร็งเจริญเติบโตต่อไป ดังนั้นนวัตกรรมใหม่ในการดูแลปัญหาผิวพรรณจึงต้องคาบเกี่ยวกับความสามารถในการควบคุมหรือ การจัดระเบียบเส้นเลือดหล่อเลี้ยงผิวหนังให้เป็นปกติอย่างแน่นอน หากทำเช่นนั้นได้ปัญหาฝ้าที่จะดีขึ้น ความเหี่ยวย่นก็จะดีขึ้น ปัญหาการรักษาแผลเป็นจากสิวหรือการผ่าตัด ปัญหาเนื้องอก ฯลฯ ก็จะง่ายขึ้น

ในปัจจุบันเรามีเลเซอร์ที่สามารถแก้ปัญหาปานแดงได้เป็นอย่างดี เรียกว่า Pulse dye laser (V-Beam) ดั้งเดิมเป็นเลเซอร์ที่ถูกประดิษฐ์ขึ้นมาเพื่อจะนำมาดูแลเรื่องปานแดง และความผิดปกติของเส้นเลือดอื่น ๆ ที่แพทย์ผิวหนังรู้จักกันดี ในระยะแรกไม่มีเทคนิคพ่นความเย็นประกอบทำให้การรักษาเส้นเลือดผิดปกติเหล่านี้ลงเอยที่มีแผลเป็น แต่ใน 5 ปีที่ผ่านมามีการนำเทคนิคการพ่นความเย็นเข้ามาช่วยและมีการปรับปรุงวิธีการฉายแสงเลเซอร์ให้ดีขึ้นทำให้การรักษาปานแดงทำได้โดยไม่มีปัญหาใด ๆ เมื่อเป็นเช่นนั้น แพทย์ผิวหนังที่มีความคิดสร้างสรรค์หลายต่อหลายทานจึงเริ่มที่จะนำเครื่องเลเซอร์ชนิดนี้ซึ่งเราให้ชื่อว่า V Beam ไปใช้ในปัญหาอื่น ๆ เริ่มด้วยการนำไปรักษาแผลเป็นจากการผ่าตัด จนเป็นที่ยอมรับว่าสามารถช่วยได้ดีกว่าการใช้วิธีการอื่น ๆ มีการขยายขอบเขตนำเครื่องV-beam ไปใช้ในการรักษาแผลเป็นจากสิว และล่าสุดนำไปใช้รักษาสิว ทำให้ขอบเขตการทำงานของเลเซอร์ชนิดนี้กว้างขวางมาก เพราะนอกจากจะเป็นเลเซอร์ที่ดูแลปัญหาโดยเข้าไปจัดระเบียบกับเส้นเลือดแล้ว ยังถือว่าเป็นเลเซอร์ที่ปลอดภัยที่สุดชนิดหนึ่งเพราะเป็นเลเซอร์ที่ใช้กับเด็กทารกแรกเกิดหรือคนท้องก็ได้ในเรื่องความงามก็มีการนำเลเซอร์ชนิดนี้ไปใช้รักษาความเหี่ยวย่นของหนังรอบตา และนำมาใช้รักษาเพื่อบำรุงให้ผิวหน้าดูอ่อนวัยขึ้นอีกด้วย

ดังนั้นหากจะมีคำถามว่าอีกนานเท่าใดที่เราจะสามารถจัดระเบียบเส้นเลือดที่อยู่ใต้ผิวหนังของเราให้ดีขึ้นเพื่อส่งผลต่อการแก้ปัญหาโรคผิงหนังและปัญหาความงามให้ดีขึ้นได้ดังใจและทำเรื่องต่าง ๆที่ดูว่ายากให้เป็นเรื่องง่ายนั้น คงมีคำตอบว่า ไม่ต้องรอนานอีกแล้วเพราะเรามี Pulse dye laser เป็นหัวหอกให้เราสามารถทำงานได้ดีพอสมควรและการพัฒนาอย่างต่อเนื่องต่อไป ในแนวทางของการใช้แสงเลเซอร์ชนิดนี้ ควบคู่กับการใช้เทคนิคอื่น ๆ เช่นการรับประทานอาหารเสริม ก็จะสามารถแก้ปัญหาที่เรามีอยู่ได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น

ปัจจุบัน V Beam สามารถแก้ปัญหาดังต่อไปนี้

– แก้รอยเหี่ยวย่นรอบดวงตา
– แก้ปัญหาแผลเป็นจากสิว และแผลเป็นนูน
– แก้ปัญหารอยจ้ำเลือด และความผิดปกติของเส้นเลือด เช่น อาการหน้าแดง อาการแพ้ระคายเคืองง่าย อาการใบหน้าที่เสียสมดุลเพราะใช้สเตียรอยด์มานาน
– ทำให้ผิวดูอ่อนวัยขึ้น
– แก้รอยหมองคล้ำจากแดด ( Poikiloderma of Civett )
– รักษาสิวที่อักเสบ
– รักษาอาการหน้าท้องลายหลังคลอดบุตรหรือรอยแตกที่เกิดในเด็กที่เติบโตเร็ว
– รักษาปานแดง และเส้นเลือดขอด

หากท่านผู้อ่านมีปัญหาเหล่านี้และได้รับคำตอบว่าไม่มีทางรักษา หรือกำลังรักษาด้วยวิธีอื่นที่เน้นเพียงการดูแลผิวกำพร้าชั้นนอก หรือ ดูแลที่ผิวชั้นในแต่ไม่เฉพาะกับการดูแลจัดระเบียบของเส้นเลือดแล้ว และยังไม่ได้รับผลที่น่าพอใจก็ลอง หันมารับการรักษาด้วยเลเซอร์ที่สามารถจัดระเบียบเส้นเลือดดูก็ได้อาจจะได้รับคำตอบที่ดีขึ้นครับ

ทางนีตนาทคลินิกและศูนย์เลเซอร์ SVJ ได้นำเอา V Beam มาใช้และให้บริการแก่ทุกท่าน

นพ.สมนึก อมรสิริพาณิชย์
อเมริกันบอร์ดผิวหนัง
นีตนาทคลินิก

:: Share This ::

ความเชื่อเรื่องเลเซอร์

ทำเลเซอร์SmoothBeam Vbeam จะทำให้เป็นมะเร็งผิวหนังหรือไม่
ไม่แน่นอนเพราะ แสงVbeam Smoothbeam อยู่ในช่วงคลื่นที่ยาว 595nm และ 1450nm ไม่ทำให้เกิดมะเร็ง ช่วงคลื่นที่ทำให้เกิดมะเร็งผิวหนังอยู่ในช่วงคลื่นที่ต่ำกว่า 400nm

ทำเลเซอร์SmoothBeam Vbeam หลังทำจะเป็นสะเก็ดแผลหรือไม่
ไม่ เพราะ SmoothBeam Vbeam เป็นเลเซอร์ในกลุ่ม Non-Ablative laser มีระบบความเย็นป้องกันผิวหนังชั้นบนจึงไม่เกิดสะเก็ดแผลหลังทำเลเซอร์

มีเลเซอร์ชนิดไหนบ้างที่ทำให้เกิดแผล
เลเซอร์ในกลุ่ม Ablative laser เช่นเลเซอร์ลบรอยสัก กำจัดไฝ เช่น QSwitch ND:YAG, Qswitch Ruby

การทำเลเซอร์เจ็บรึเปล่า??
ไม่เจ็บ

การรักษาสิวด้วยเลเซอร์ต้องใช้เวลาการทำบ่อยแค่ไหน เห็นผลเมื่อไร
ใช้เวลาการรักษา 5-10 นาที หลังการรักษาสามารถกลับไปเรียนหรือทำงานได้ตามปกติ
การรักษาครั้งต่อไปห่างกัน 2 สัปดาห์ การรักษาสิวเริ่มได้ผลในสัปดาห์ที่4

ก่อนทำเลเซอร์ SmoothBeam, Vbeam ต้องเตรียมตัวเป็นพิเศษอย่างไรบ้าง
ไม่จำเป็นสามารถทำเลเซอร์ได้เลย แต่มีข้อระวังในคนมีประวัติผื่นแพ้แสง

หากเลเซอร์ได้ผลดีทำไมถึงไม่มีศูนย์รักษาสิวด้วยเลเซอร์
เป็นเพราะเทคโนโลยีราคาแพง แพทย์ผู้ชำนาญมีไม่มาก การรักษาเน้นไปในเชิงการค้ามากเกินไปทำให้เกิดความเข้าใจผิดๆเกี่ยวกับเลเซอร์

ด้วยความปรารถนาดีจาก
ทีมแพทย์ SVJ ACNE CENTER
ติดตามข่าวสารคลินิกได้ที่ www.SVJclinic.com

บทความโดย
นพ.วิสิฏฐ ศรีสนิท
แพทย์ศาสตร์ รามาธิบดี
Dlploma in Dermatology (Institue of Dermatology BKK)

:: Share This ::