หมวดหมู่: ไม่มีหมวดหมู่

บทความนี้ผมอยากสื่ออะไร เราเคยพบกับสถานการณ์ต่างๆเหล่านี้มั้ยครับ
ข้อ 1 อดทนทำสิ่งหนึ่ง แล้ว ประสบความสำเร็จ
ข้อ 2 อดทนทำสิ่งหนึ่ง แล้ว ไม่ประสบความสำเร็จ
ข้อ 3 ไม่ต้องอดทน ก็ ประสบความสำเร็จ
ข้อ 4 ไม่ต้องอดทน แล้ว ไม่ประสบความสำเร็จ

โดยปกติมนุษย์เรามักอยากได้ ข้อ 3 มากที่สุด และ ไม่อยากได้ข้อ2 มากที่สุด
แต่สำหรับผมแล้วมองกลับกันครับ ผมรักที่จะทำข้อ 1 และ 2 มากที่สุด
ข้อ4 เป็นข้อที่เกิดขึ้นกับผมบ่อยเหมือนกัน
ส่วนข้อ 3 คือข้อที่ผมกลัวมากที่สุด

ยกตัวอย่างง่ายๆครับ เช่น การออกกำลังกาย เพื่อ ลดน้ำหนัก เปรียบกับ การทานยาและอาหารเสริม เพื่อ ลดน้ำหนัก
มนุษย์มักเลือกข้อ 3 ก่อนเพื่อความสำเร็จง่ายๆ คือ กินยาลดน้ำหนัก ซึ่งได้ผลดีมากซะด้วย ทำให้การทำข้อ1 คือ ออกกำลังกายเพื่อลดน้ำหนัก คนส่วนใหญ่รู้ว่าดีแต่ไม่ทำเพราะมันยาก
หากเราเสพย์ติดแนวคิดที่ไม่ต้องอดทนเพื่อความสำเร็จอยู่เรื่อยๆ เราจะมองข้อ2มากขึ้นครับ เช่น คนที่ออกกำลังกายเยอะแยะที่ทำไม่สำเร็จ น้ำหนักไม่ลด ทำไปทำไม สู้กินยากินอาหารเสริมดีกว่าง่ายกว่า ดังนั้น เมื่อดำเนินชีวิตที่ทำอะไรง่ายๆ เพื่อให้ได้ผลเยอะๆเสมอ ชีวิตจะกลายจากข้อ3 เป็น ข้อ 4 ครับ

เปรียบการลดความอ้วนด้วยยา ก็เหมือนกับการรักษาสิวด้วยสเตียรอยด์ครับ เวลาติดแล้วมันเลิกยาก

ลองตรองคิดดูครับ

นพ.วิสิฏฐ ศรีสนิท

บทความนี้หมออยากเขียนบทความนี้เพื่อเตือนใจหนุ่มสาวๆที่อยากสวยเร็วๆโดยที่ไม่สนใจถึงอนาคตของผิวที่จะเสียไป ทุกๆวันหมอดูแลคนไข้ที่มีปัญหาสวยก่อนผ่อนทีหลังแล้วมีความรู้สึกสงสารคนไข้มากๆครับ คนไข้บางคนโกรธหมอคนก่อนๆมากที่ทำให้ผิวพัง บางคนซึมเศร้า บางคนหมดพลังในการดำเนินชีวิต ถ้าเป็นเด็กนักเรียนอาจพาลไม่อยากไปเรียนเลยก็มี ” สวยก่อนผ่อนทีหลังคืออะไร ”

“สวยก่อน” คือ การอยากสวยเร็วๆทำอะไรก็ได้ที่จะสวย อะไรสวยเร็วทำได้ทุกอย่าง ยอมทุกอย่าง โดยไม่สนใจถึงความจริง หรือบางครั้งเราก็ไม่รู้ว่าความจริงคืออะไร
ในแวดวงการดูแลผิวหนังมียาอยู่ชนิดนึงที่ทำให้สวยเร็ว สวยสุดยอด ราคาถูก ยาชนิดนี้คือสเตียรอยด์ เมื่อทาสเตียรอยด์ไปได้ซักประมาณ2-3สัปดาห์ ผิวจะขาวใสขึ้นอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน (คนไข้หมอบางคนถึงกับบอกว่าทาแล้วขาวที่สุดในชีวิต) อาการผดผื่นแพ้ง่ายหายเป็นปลิดทิ้ง ทำไมมันช่างดีอย่างนี้ มาแล้วครับ “สวยก่อน” ช่วงสวยก่อนกินเวลานานมากครับสำหรับบางคน อาจสวยเป็นปีๆหลายๆปี ข้อนี้แหละครับที่ทำให้คนถึงติดยาติดครีมกันทั่วบ้านทั่วเมือง เวลาผมไปเตือนว่าให้เลิกใช้ครีมเพราะเริ่มสังเกตุเห็นผิวที่เริ่มๆบาง บางครั้งยังโดนคนไข้ดุเลยหาว่าหมอมาขัดความสวยทำไม 55555

“ผ่อนทีหลัง” คือ หลังจากที่สวยสุดยอดมาเป็นแรมปี ก็ต้องมาเริ่มเข้ากระบวนการผ่อนทีหลังแล้วครับ เมื่อทาสเตียรอยด์ไปนานๆ จะทำใหัภูมิต้านทานที่ผิวหนังแย่ ลง ผิวบางลงจนเห็นเส้นเลือด ( ยังมีคนไข้บางคนชอบซะอีกครับ บอกผิวเห็นเส้นเลือดดูสุขภาพดี ) จากนั้นอาการสิวผดก็เริ่มตามมา จากสวยเริ่มกลายเป็นไม่สวยแล้ว บางคนไม่เคยมีสิวก็เริ่มมีสิว ( ไปหาหมอ หมอก็บอกว่าผิวแพ้ง่าย ก็ง่ายเพราะทายาแก้แพ้หมอนี่แหละครับ ) คนที่ไม่มีฝ้าก็เริ่มเป็นฝ้า ทีนี้เริ่มยุ่งแล้วครับ เลิกทาครีมวิเศษ สิวก็เห่อ ฝ้าดำขึ้น ทาก็ขึ้นน้อยหน่อย แต่ยังดีกว่าไม่ทา ยิ่งทาก็ยิ่งถลำลึก ในช่วงนี้การรักษายากมากขึ้น ถ้าจะทำง่ายที่สุดคือ ให้สเตียรอยด์ในโดสที่แรงขึ้น น่าสงสารครับ และโดยส่วนใหญ่ก็จะโดนหมอเก่งๆให้สเตียรอยด์ในโดสที่หนักขึ้นเกือบทุกคน หลุดไปหลังจากนี้คือภาวะ “ล้มละลายครับ”

“ล้มละลาย” คือ ทาครีม ยาแก้แพ้ ก็ไม่หาย หยุดทาก็ไม่ได้เพราะจะยิ่งแย่กว่าเดิม เริ่มหมดศรัทธาในแพทย์ หมดความมั่นใจในตัวเอง เบื่อชีวิต บางคนเลิกทาครีม ปล่อยมันไป บางคนเลิกทาครีมหันไปปกปิดโดยการแต่งหน้า สงสารครับสงสาร

ผมไม่อยากให้เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นมาเลย แต่จากการเฝ้ามองมาเกือบ10ปี ทุกๆปีจะมีคนมาให้ผมแก้ไขภาวะติดสเตียรอยด์เพิ่มขึ้นทุกปี แพทย์ผิวหนังที่ทำงานด้านเลิกสเตียรอยด์ให้คนไข้แทบจะไม่เหลือแล้ว เพราะไปจ่ายสเตียรอยด์ให้คนไข้ง่ายกว่า รวยกว่า ไม่ต้องอธิบายเยอะ ไม่ต้องรับผิดชอบเยอะ หมอจึงเขียนบทความนี้เพื่อเป็นอุทาหรณ์ให้คนที่ยังไม่เริ่มทาครีม ขอบอกว่าอย่าทาเลยครับครีมสเตียรอยด์ “ได้ไม่คุ้มเสียแน่นอนครับ”

17มีนาคม 2557

นพ.วิสิฏฐ ศรีสนิท
Director of SVJ clinic