fbpx

เป็นกำลังใจให้คนไข้ผิวบางติดสเตียรอยด์ทุกคนครับ

ที่หมอเขียนบทความนี้ขึ้นมาก็เพราะอยากเป็นกำลังใจให้คนไข้ที่ผิวบางและติดสเตียรอยด์จากการรักษาสิวครับ เนื่องจากผมมีคนไข้ที่ทนทุกข์ทรมานจากการรักษาสิวแล้วไม่หาย ยังไม่พอยิ่งรักษายิ่งแย่ลง ผิวบางลง แดงง่าย
แพ้ง่าย ต้องไปพึ่งยาแก้แพ้ ( ยาสเตียรอยด์ ) ทาช่วงแรกๆสิวผดก็หาย แต่ยิ่งทาไปก็ยิ่งติดยาเลิกยาไม่ได้ เลิกปุ้บ
สิวขึ้นปั้บ นานๆเข้าทายาก็ยังคุมสิวผดไม่อยู่ขึ้นไม่มีหยุด จนทำให้หมดความหวังในการรักษาสิว เลิกรักษาไปเลยก็มีเยอะครับ พอเลิกรักษาสิวก็ยิ่งขึ้นพร้อมมีอาการคัน ไม่มีทางออกก็ต้องกลับมาทายาสเตียรอยด์อีก เป็นวัฐจักรที่ไม่มีวันจบสิ้น จนบางคนท้อไม่อยากยุ่งเรื่องการรักษาสิวไปเลยก็มีเยอะมากๆครับ ซึ่งนับวันผมจะเจอคนไข้กลุ่มนี้มากขึ้นๆ
จนทำให้เข้าใจถึงความรู้สึกหมดหวังในการดูแลตัวเอง ทั้งๆที่อยากดูแลแต่ยิ่งดูแลยิ่งแย่ลง เห็นใจมากๆครับ

สิ่งที่จะช่วยให้อาการติดสเตียรอยด์ดีขึ้นได้ คือ ความเข้าใจเกี่ยวกับการดูแลผิวครับ

อาการติดสเตียรอยด์คือ อาการที่ผิวมีความผิดปกติทางด้านเส้นเลือดซึ่งเกิดจากการทายามานานๆ ทำให้ผิวบางและอ่อนแอลง พอผิวอ่อนแอลงโดยความเชื่อก็ต้องบำรุงผิวด้วยครีม ซึ่งเป็นจุดแรกที่ทำให้ผิวแย่ลงครับ ในขณะที่ผิวแพ้ง่ายอ่อนแออยู่การทาครีมบำรุงจะยิ่งไปทำให้เกิดการระคายเคืองยังผลให้เกิดสิวเพิ่มขึ้นยิ่งสิวเพิ่มขึ้นก็ต้องรักษาสิวเพิ่มขึ้น ครีมที่ใช้ในการรักษาสิวก็มีฤทธิ์เป็นกรดไปกัดผิวทำให้ผิวบางลงอีก เป็นวงจรที่ซ้ำซากยิ่งแก้ไขก็ยิ่งสร้างปัญหา ดังนั้นในทางแก้ไขง่ายๆถ้ามีอาการผิวอ่อนแอ ผิวระคายเคืองง่าย ต้องไม่บำรุงเพิ่มครับ หยุดการใช้ครีมเพื่อไม่กระตุ้นอาการแพ้ งดอาหารจำพวกนม เนย ถั่ว เค้ก ช้อกโกแลต ข้าวซ้อมมือ กล้วย แอลกอฮอล์ ล้างหน้าตามแนวโพรงขนเพื่อไม่รบกวนการไหลเวียนของน้ำมันใต้ผิวหนัง เท่านี้ก็ช่วยได้ไม่น้อยกว่า 50% แล้วครับ แต่ถ้าอยากจะเลิกยาสเตียรอยด์ให้เร็วขึ้น หรือ ในคนไข้ที่มีอาการรุนแรง การใช้แสงเลเซอร์ Vbeam ช่วยเหลือปัญหาผิวติดสเตียรอยด์ได้ดีมากๆครับ ผมทำงานเลเซอร์ผิวหนังมามากกว่า 7 ปียืนหยัดสู้รักษาสิวโดยไม่เคยใช้สเตียรอยด์มาโดยตลอด เห็นคนไข้จำนวนมากที่หายขาดจากการติดสเตียรอยด์ได้ สิ่งเหล่านี้เป็นกำลังใจให้ผมพัฒนาวิธีการรักษาและตั้งมั่นอยู่ในหลักการมาโดยตลอดครับ

ท้ายที่สุดนี้ความมุ่งมั่นต่อไปคือ อยากจะทำสังคมออนไลน์ให้ความรู้เกี่ยวกับผิวติดสเตียรอยด์ โดยช่วงนี้ผมได้เริ่มขออนุญาตให้คนไข้ที่ผมรักษาผิวติดสเตียรอยด์แล้วหายขาดมาช่วยเขียนประสบการณ์ในการรักษาซึ่งหวังว่าจะช่วยทำให้มุมมองและแนวคิดเกี่ยวกับผิวติดสเตียรอยด์สมบูรณ์มากขึ้นครับ

เป็นกำลังใจให้คนไข้ที่อยากเลิกสเตียรอยด์ทุกคนนะครับ

            

: : สำหรับคนไข้ที่มีปัญหาหรือข้อสงสัยว่าตนเองจะติดสเตียรอยด์ : :
: : สามารถสอบถามผมได้ที่คลินิก หรือ : :

02 658 3838 (สยาม) 02 434 4955 (ปิ่นเกล้า)       SVJClinic

  Facebook.com/SVJClinic        SVJLaserClinic

  @SVJClinic          SVJ Laser Clinic

นพ วิสิฏฐ ศรีสนิท
Director SVJ Laser Clinic

:: Share This ::

สิวกับผิวแพ้ง่าย( ผิว sensitive )

ปัจจุบันหมอพบว่าคนไข้ที่มารักษาสิวที่ SVJ มีจำนวนไม่น้อยที่มีปัญหาสิวที่เกิดจากการแพ้ ใช้ครีมหรือผลิตภัณท์อะไรนิดอะไรหน่อย หรือไปเที่ยวต่างจังหวัดต่างประเทศก็สิวขึ้น และนับวันยิ่งเพิ่มจำนวนขึ้นเรื่อยๆ ทั้งๆที่ สิว กับ ภูมิเพ้
มันคนละโรคกันและมักไม่เกิดขึ้นพร้อมกัน ทำไมล่ะจึงมีคนไข้กลุ่มนี้มากขึ้น

หมอขอเกริ่นก่อนนะครับ ความเข้าใจพื้นฐาน คนที่เป็นสิวมักผิวมัน คนที่เป็นภูมิแพ้ล่ะผิวมันหรือผิวแห้ง คำตอบคือ
ผิวแห้งครับ และคนที่เป็นสิวภูมิแพ้ล่ะ ผิวมันหรือแห้ง??? ตามปกติคนที่เป็นสิวมักไม่เป็นภูมิแพ้ เนื่องจากคนไข้มีภาวะที่มีการทำงานของต่อมไขมันที่ดี หรืออาจมีมากเกินไปด้วยซ้ำ ส่วนคนที่เป็นภูมิแพ้ก็มักไม่เป็นสิว เนื่องจากสภาพผิวหนังที่แห้งไม่เหมาะกับการเจริญเติบโตของเชื้อสิว แล้วเหตุใดล่ะที่ทำให้คนไข้มีปัญหาสิวภูมิแพ้

คำตอบคือ เกิดจากยารักษานั่นเอง ปัจจุบันมียาตัวหนึ่งชื่อว่า “สเตียรอยด์” ถ้าเริ่มต้นจากคุณเป็นภูมิแพ้และทายาตัวนี้นานๆ จะทำให้กระตุ้นการเกิดสิวได้ เป็นสิวก็ใช้ยารักษาสิวที่มีฤทธิ์ทำให้เกิดการลอกผิว หน้าแห้ง พอหน้าแห้งอาการภูมิแพ้ก็กำเริบ ดังนั้นคนไข้ก็จะวนเวียนอยู่ในการรักษาไม่รู้จักจบจักสิ้น  ถ้าเริ่มต้นจากคุณเป็นสิว และเริ่มต้นการรักษาสิวด้วยการลอกหน้า ทาครีม ฉีดสิวด้วยสเตียรอยด์ ทำไปนานๆผิวหน้าก็เริ่มบาง อ่อนแอ พออ่อนแอก็แพ้ง่าย ยิ่งแพ้ง่ายก็ยิ่งทาสเตีรอยด์ เห็นไหมล่ะครับสรุปก็วนเวียนเหมือนปัญหาแรกไม่มีผิด

เบื่อรึยังกับเจ้าสเตียรอยด์ ถ้าเบื่อหมอมีวิธี SVJ Laser Clinic เราเป็นคลินิกที่มีความมุ่งมั่นในการรักษาสิวโดยปราศจากสเตียรอยด์

                           

นพ.วิสิฏฐ ศรีสนิท
พบ.รามาธิบดี
Diploma in Dermatology

:: Share This ::

การติด Steriod แบบไม่รู้ตัว

ปัญหาเรื่องการแอบใส่ สาร steroid ในครีมต่างๆ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพของการใช้ครีมเหล่านั้นในการป้องกันและลดอาการอักเสบ การระคายเคืองโดยไม่ได้คำนึงถึงผลข้างเคียงที่จะตามมา นั้นไม่ ใช่เป็นปัญหาที่น่ากังวลเฉพาะในเมืองไทยเท่านั้น

มีรายงานตั้งแต่ปี 1999 ในวารสาร British Medical Journal เล่มที่ 318 หน้า 563-564 โดยทีมแพทย์ผิวหนังของ มหาวิทยาลัยแพทย์ King College แห่งกรุงลอนดอน ประเทศ อังกฤษ นำโดย E M. Higgins ว่า ครีมที่อ้างว่าเป็น สมุนไพรจากจีนที่มีประสิทธิภาพในการรักษาการอักเสบของผิวหนังต่างๆนั้น ส่วนใหญ่มีการผสมสาร steroid ทั้งนี้ทีมวิจัยได้เก็บตัวอย่างครีมมาทั้งหมด 11 ชนิด จากผู้ป่วยโดยตรง เทคนิคที่ใช้ในการตรวจสอบนั้น ได้ ใช้ เทคนิคที่เรียกว่า high resolution gas chromatography and mass spectrometry

ผลจากการตรวจสอบพบว่า 8 ใน 11 ครีมมีส่วนผสมของ Dexamethasone ( สาร steroid ที่รุนแรงชนิดหนึ่ง) กว่า 500 ไมโครกรัมจาก เนื้อครีม 1 กรัม ทีมวิจัยจึงสรุปให้มีการเสนอการควบคุมที่เข็มงวดกับสารสมุนไพรจากจีนที่นำเข้า มาขายในอังกฤษ ความแรงของส่วนผสมที่พบนี้มีค่าเท่ากับการใช้สาร steroid เช่น 0.05% betamethasone valeate ซึ่งสามารถหาซื้อได้ตามร้านขายยาทั่วไปที่มีการควบคุมโดยเภสัชกร

ไม่เพียงแต่เท่านี้ ในปี 2003 กลุ่มแพทย์ชาวอังกฤษ อีกกลุ่มหนึ่ง ของโรงพยาบาล Birmingham Children’s Hospital ก็ได้รายงานความเป็นกังวลเกี่ยวกับเรื่องการใช้สาร steroid ในผู้ป่วยเด็กเพราะจากตัวอย่างครีมที่ได้มาจากผู้ป่วยระหว่างปี 2002-2003 ทั้งหมด 24 ตัวอย่างของครีมที่อ้างว่าเป็นครีมสมุนไพรนั้น เมื่อทำการตรวจวัดด้วยเทคนิค HPLC พบว่ามีสาร steroid ในครีมทั้งหมด 20 ชนิด โดยมีสาร steroid จำพวก clobetasol propionate , betamethasone valerate, clobetasone butyrate และ hydrocortisone ในบางรายมีความเข็มข้นถึง 20% ทั้งนี้ผู้ป่วยที่ได้รับสาร steroid โดยไม่รู้ตัวนี้มีอายุเฉลี่ยตั้งแต่ 0.69 ถึง 7.98 ปี ผู้รายงานสรุปว่าหน่วยงานที่รับผิดชอบความควบคุมดูแล และประชาสัมพันธ์อย่างทั่วถึงให้ประชาชนทราบถึงความเห็นแก่ตัวโดยไม่คำนึงถึงผลร้ายที่จะเกิดกับผู้บริโภคของผู้ผลิตครีมเหล่านี้

รายงานทั้ง 2 ฉบับนี้บ่งบอกถึงความรับผิดชอบต่อสังคมของแพทย์ที่มีจริยธรรม เพราะเป็นการวิจัยและรายงานจากทีมแพทย์ที่ไม่ได้มีหน้าที่โดยตรง

ทางนีตนาทคลินิกก็เป็นกังวลกับเรื่องนี้มากเช่นเดียวกันเพราะมีข้อมูลเบื้องต้นบ่งชี้ว่าครีมรักษาสิว ฝ้าที่ประชาชนได้รับมาไม่ว่าจากแพทย์ไม่ว่าจะเป็นแพทย์ผิวหนัง แพทย์ผิวพรรณ คนขายครีมทั่วไป น่าจะมีสาร steroid เจือปนมากชนิดเช่เดียวกัน

การติดตั้งเครื่อง HPLC เพื่อการตรวจวัดสาร steroid นั้นต้องสิ้นเปลืองค่าใช้จ่ายกว่า 8 ล้านบาท เป็นค่าเครื่อง ค่า ห้องปฏิบัติการ ค่าน้ำยาตรวจวิเคราะห์ และค่าจ้างนักวิทยาศาสตร์ประจำห้องปฏิบัติการ หาก หน่วยงานที่รับผิดชอบลงมาเก็บยาทาสิว ฝ้าเหล่านี้มาวิเคราะห์ก็จะดีไม่น้อย สถาบันโรคผิวหนังหรือภาควิชาตจวิทยาก็น่าจะมีส่วนเกี่ยวข้องโดยตรง หาก ไม่มีใครทำ นีตนาทคลินิกคงจะยอมลงทุนติดตั้ง ระบบวัดนี้เองในไม่ช้านี้ เพื่อประโยชน์อะไรหรือครับ ก็เพื่อตอบแทนบุญคุณอาจารย์ที่ประสิทธิประสาทวิชาผิวหนังให้มา เพื่อก่อประโยชน์ให้ส่วนรวม ไม่เช่นนั้นก็ภือเป็นการอกตัญญูต่อครูบาอาจารย์และวิชาชีพที่เรียนมานั่นเอง

ทีมวิชาการ นีตนาทคลินิก 2007

:: Share This ::

ผลข้างเคียงของสเตียรอยด์ในการรักษาสิว

ในปัจจุบันมีการใช้ยาสเตียรอยด์เพิ่มขึ้นอย่างมากเนื่องจากสเตียรอยด์มีคุณสมบัติในการลดการอักเสบ โรคผิวหนังมากกว่า 50% ต้องใช้ยาสเตียรอยด์ร่วมในการรักษาและในปัจจุบันในการรักษาสิวซึ่งเป็นโรคผิวหนังที่พบบ่อยที่สุด ได้มีการนำสารสเตียรอยด์มาใช้อย่างพร่ำเพรื่อมากขึ้นเป็นอย่างมาก ทั้งพบอยู่ในรูปของยาฉีดสิว ยาทาแก้สิวผด ครีมขี้ผึ้ง ยาโลชั่น ซึ่งการใช้สเตียรอยด์ติดต่อกันนี้เองทำให้มีปัญหาผลข้างเคียงของยาตามมา ซึ่งในบทความนี้จะแจกแจงถึงผลข้างเคียงของการใช้ยาสเตียรอยด์

ผลข้างเคียงของสเตียรอยด์

1. เกิดอาการผิวหน้าบาง หลังการใช้ยาสเตียรอยด์ 2-4 สัปดาห์ฤทธิ์ยาจะทำให้ผิวหนังเกิดการบางตัวยาจะทำให้กระบวนการสร้างคอลลาเจนเสียไป ผลที่สังเกตได้คือ เกิดรอยแตก รอยแยกบนผิวหนัง

2. เส้นเลือดใต้ผิวหนังผิดปกติทำให้มีอาการหน้าแดงอยู่ตลอดเวลา

3. ผิวหนังจะมีสีจางลงหากใช้เป็นเวลานานทำให้เกิดเกิดด่างขาว

4. เกิดรอยบุ๋มของผิวหนัง (ส่วนมากเกิดจากการฉีดสิว )

5. เกิดสิวผด

6. หากใช้ยาเป็นเวลานานจะเกิดการติดยาสเตียรอยด์ ( Steroid Addict ) เมื่อหยุดยาหน้าจะแดงมีสิวผดเกิดขึ้น ปัญหานี้พบบ่อยมากในปัจจุบันเนื่องจากมีการใช้สเตียรอยด์เกินความจำเป็น

ทาง SVJ Clinic ได้ติดตามปัญหาหน้าติดสเตียรอยด์มาอย่างใกล้ชิด หากกังวลว่ามีปัญหาติดสเตียรอยด์หรือไม่ลองนึกว่าคุณมีครีมตัวหนึ่งเมื่อหยุดใช้แล้วทำให้มีสิวผดเกิดขึ้นทำให้ไม่สามารถเลิกครีมได้ ให้สงสัยได้ว่าครีมนี้อาจมีส่วนผสมของสเตียรอยด์
เรามีแนวทางที่หลีกเลี่ยงการใช้ยาสเตียรอยด์ คนไข้ของเราทุกคนมั่นใจได้ว่าคุณจะไม่ติดสเตียรอยด์ที่SVJ Clinic อย่างแน่นนอน

ทีมงานวิชาการ SVJ

บทความโดย

นพ.วิสิฏฐ ศรีสนิท
แพทย์ศาสตร์ รามาธิบดี
Dlploma in Dermatology (Institue of Dermatology BKK)

:: Share This ::