fbpx

ยิง Vbeam ให้ได้ผลต้องทำอย่างไร

คนไข้มาถามหมอมากเลยครับว่าเคยยิง Vbeam ที่อื่นๆมาแล้วไม่เห็นดีขึ้นแต่มายิงที่ SVJ ทำไมถึงหาย คำตอบคือ Smoothbeam ครับ ถ้ายิง Vbeam อย่างเดียวไม่ยิง Smoothbeam ด้วย จะทำให้ผลการรักษาไม่ดีครับ

เจ้า Smoothbeam มันไปเกี่ยวอะไรกับ Vbeam ละคะหมอ ทุกคนคงมีความคิดนี้อยู่ใช่มั้ยครับ ประเด็นคืออย่างนี้ครับ
ในการรักษารอยแดงสิวการที่จะทำให้รอยแดงหายได้ขึ้นอยู่กับปัจจัยสามประการคือ
1. การอักเสบของสิว
2. ความบอบช้ำของเนื้อเยื่อรอบรอยแดง
3. ความแข็งแรงของผิว

  • ตอบประเด็นแรกก่อนคือเรื่องการอักเสบของสิว ถ้าสิวเม็ดนั้นยังมีการอักเสบอยู่สังเกตได้จากเม็ดสิวยังนูนๆกดเจ็บหรือมีหัวสิวอยู่ หรือมีหนองอยู่ อาการเหล่านี้ถ้ายิงแค่ Vbeam จะไม่หายต้องยิงเลเซอร์ Smoothbeam
    ร่วมด้วยเพื่อให้หัวสิวสลายไปหรือค่อยๆหลุดลอกออกมาและSmoothbeam ยังช่วยในการลดการอักเสบและ
    ค่าเชื้อสิวอีกด้วย ดังนั้นถ้ายิงแค่ Vbeam และไม่ยิง Smoothbeam จะไม่ได้ผลที่ดี
  • ประเด็นที่สอง คือ ความบอบช้ำของเนื้อเยื่อ ถ้าน้องๆรักษาสิวโดยการกดออก หรือ ใช้เลเซอร์ CO2 เจาะสิวแล้วกดออก การกระทำนี้จะทำให้ผิวรอบๆบอบช้ำมาก รอยแดงจะหายยาก ซึ่งการใช้SmoothBeamในการรักษา
    สิวอักเสบ จะไม่ทำให้ผิวรอบๆสิวเกิดอาการช้ำ
  • ประเด็นที่สาม คือ ความแข็งแรงของผิว ถ้ามีอาการผิวบาง ผิวติดสเตียรอยด์ จะทำให้ผิวไม่แข็งแรง การที่ผิวบางทำให้การรักษาสิวยุ่งยากมากขึ้น

ดังนั้น การรักษารอยแดงและสิวอักเสบหากจะทำให้ดีไม่ใช่เรื่องง่าย แต่ก็ไม่ยากเย็นจนเกินไปครับ ตามประสบการณ์ของหมอที่ยิงเลเซอร์ Vbeam และ Smoothbeam รวมกันไม่น้อยกว่าสามล้านช้อต หมอเชื่อว่าวิธีการรักษาสิวของหมอเป็นวิธีการที่ช่วยฟื้นฟูผิวในระยะยาว ไม่ทำให้ผิวอ่อนแอ ไม่ทำให้ผิวบางลง อันจะทำให้สิวหายขาดได้ครับ
ดังชื่อคลินิกที่ตั้งว่า SVJ  ซึ่งย่อมาจาก “Smoothbeam & Vbeam Join together”

นพ. วิสิฏฐ ศรีสนิท
Diploma in Dermatology

:: Share This ::

ไม่กดสิวอุดตันได้รึเปล่า

ถามว่าคนไข้หมอไม่ชอบสิวรูปแบบไหนมากที่สุด คำตอบคือ สิวอุดตันครับ ทำไมถึงไม่ชอบก็เพราะเวลาเป็นสิวอุดตัน
ก็จะต้องโดนกดสิว พอพูดถึงการกดสิวก็ทำให้นึกถึง ความเจ็บระหว่างการกด การเป็นรอยแดงที่หายยาก การเป็นหลุมตามมา หรือถ้ากดไม่ดีวันรุ่งขึ้นก็กลายเป็นสิวอักเสบ หมอจึงไม่เลือกการรักษาสิวอุดตันโดยการกดออก แต่ใช้เลเซอร์ SmoothBeam แทน  โดยช่วงคลื่นของ Smoothbeam จะไปทำให้ต่อมไขมันและหัวสิวค่อยๆฝ่อลงโดยไม่ทำอันตรายกับผิวหนังรอบข้าง และยังทำให้ลดการทำงานของต่อมไขมันด้วย หน้าก็จะมันน้อยลง การเกิดสิวน้อยลง เหมือนการกินยา Roaccutane แต่ไม่ต้องกินยา หมอจึงเรียกเลเซอร์ smoothbeam ว่า Accutane Laser

ข้อดีต่อไปของเลเซอร์ SmoothBeam คือ

  • ช่วงคลื่น 1450 nm สามารถกระตุ้นรอยหลุมสิวได้ดีรองจาก fraxel laser ดังนั้นจึงเป็นประโยชน์สองต่อ
    ในการทำเลเซอร์ smoothbeam ทั้งช่วยในการรักษาสิวและรอยหลุมสิว
  • เนื่องจาก Smoothbeam เลเซอร์ เป็นเลเซอร์ในกลุ่ม Non-Ablative ทำให้หลังการรักษาไม่เกิดสะเก็ดแผล สามารถกลับไปทำงานได้เลย

ในแง่วิชาการมีงานวิจัยยืนยันผลดีของการรักษาสิวด้วยเลเซอร์ SmoothBeam มากมาย โดยสามารถสืบค้นง่ายๆจาก google.com พิมพ์คำว่า Smoothbeam ก็จะพบเรื่องราวไม่น้อยกว่า 63,000 search

ดังนั้นจากคำถามที่เป็นที่มาของบทความนี้ว่า “ไม่กดสิวอุดตันได้รึเปล่า”  คำตอบคือได้แน่นอนครับ และหมอมี tip ง่ายๆมาฝากในเรื่องของการป้องกันสิวอุดตัน คือการล้างหน้าให้ถูกวิธีตามแนวขนดังรูปต่อไปนี้ครับ

นพ. วิสิฏฐ ศรีสนิท
Director of SVJ Laser Clinic

:: Share This ::

Update Vbeam กับการรักษาสิว

เนื่องด้วยการรักษาสิวในปัจจุบันมีหลากหลายวิธี ทั้งการกินยา ทายา กดสิว ฉีดสเตียรอยด์ ทำทรีตเมนต์ และล่าสุดคือการใช้เลเซอร์รักษา ซึ่งทาง SVJ Laser Clinic เรามีความมุ่งมั่นที่จะรักษาสิวด้วยแสงเลเซอร์ โดยไม่กดสิว
ไม่ฉีดสิว ไม่ใช้สเตียรอยด์ และลดปริมาณการใช้ยาลงให้เหลือน้อยที่สุด เพื่อเป็นทางเลือกที่ดีที่สุดของผู้ป่วยสิว

3 ปีที่เรายึดมั่นในแนวทางการรักษานี้ ทำให้ปัจจุบันการใช้เลเซอร์ SmoothBeam & Vbeam เพื่อรักษาสิวเป็นที่พูดถึงกันอย่างมาก เลเซอร์มีบทบาทในการรักษาสิวมากขึ้น

  • เลเซอร์ Smoothbeam ช่วยดูแลคนไข้สิวที่ดื้อต่อการรักษาด้วยยา
  • เลเซอร์ Vbeam ช่วยรักษารอยแดงสิวที่ทายามานานก็ไม่หายซักที

เลเซอร์ Vbeam ช่วยดูแลคนไข้หน้าบางจากการติดยาแก้แพ้ และเลเซอร์ยังช่วยแก้ปัญหาอื่นๆอีกมากมาย นี่คือเรื่องราวต่างๆเหล่านี้เกิดขึ้นใน 3 ปีที่ผ่านมาและเราไม่ใช่แพทย์เพียงกลุ่มเดียวที่มุ่งมั่นในการรักษาสิวด้วยเลเซอร์ ในงานประชุมที่จัดโดยบริษัท Beammed เมื่อเดือนพย. 51 ที่ผ่านมา ได้มีงานวิจัยเรื่องการรักษาสิวขั้นปานกลางถึงรุนแรงด้วยเลเซอร์ Vbeam ซึ่งทำการวิจัยที่สถาบันโรคผิวหนังกรุงเทพ โดย อาจารย์แพทย์ จินดา โรจนเมธิน ซึ่งได้ผลสรุปงานวิจัยว่า การใช้เลเซอร์ 595-pulse dye laser ( Vbeam ) โดยไม่เปิด cryogen spray สามารถนำมาใช้ในการรักษา
สิวอักเสบได้ดีและปลอดภัย ซึ่งเป็นการยืนยันว่าเลเซอร์เข้ามามีบทบาทในการรักษาสิวยุคปัจจุบัน

นพ.วิสิฏฐ ศรีสนิท
พบ.รามาธิบดี
Diploma in Dermatology

:: Share This ::

การตัดสินใจเลือกวิธีการรักษาสิว

หมอเจอคนไข้ที่เป็นสิวที่มีอายุระหว่าง 30-40 ปีแทบทุกคนจะเคยรักษาสิวมานานนับ 10 ปีแล้วก็ยังไม่หาย
ถามว่าสาเหตุเกิดจากอะไร คำตอบมีดังนี้
1. การรักษาสิวที่ผ่านมาไม่ได้มุ่งเน้นไปที่การทำให้สิวหาย โดยการเจาะสิว กดสิว ฉีดสิว ทำให้โพรงขน
เกิดความเสียหาย จากท่อตรงๆที่น้ำมันขับถ่ายได้ดี กลายเป็นท่อที่คดเคี้ยวเกิดการอุดตันได้ง่าย
2. การใช้ยาสเตียรอยด์ที่มากเกินไป เนื่องจากการรักษาสิวที่ต้องใช้สารลอกผิวหน้าเช่น AHA, BP, Vitamin A,
การทำ Dermabrasion สิ่งต่างๆเหล่านี้ ทำให้ผิวอ่อนแอลงเมื่อถึงจุดๆนึงก็จะเกิดอาการแพ้เป็นผด จึงต้องให้
ยาสเตียรอยด์ยิ่ทาก็ยิ่งติดทำให้เลิกยาไม่ได้
3. ความเบื่อหน่ายในการรักษา เพราะไปรักษาก็ถูกรักษาแบบเดิมๆ แม้เปลี่ยแพทย์แล้วก็ตามทำให้หมดศรัทธา
ในการรักษา

เราจะแก้ไขปัญหานี้อย่างไร??
1. เลิกวิธีการรักษาแบบเดิมเพราะพิสูจน์แล้วว่าไม่ได้ผล


2. เลิกการใช้สเตียรอยด์


3. หันมารักษาสิวโดยการอนุรักษ์โพรงขนให้อยู่ในสภาพเดิม

หมอได้ทำการรักษาสิวด้วยวิธีอนุรักษ์โพรงขน ไม่ใช้สเตีรอยด์โดยนำเทคโนโลยีแสงเลเซอร์ VBeam ,SmoothBeam มาร่วมในการรักษาสิว พบว่าได้ผลดีมากและสามารถลดการใช้ยา ไม่ต้องกดเจาะสิว ไม่ต้องฉีดสิวอีกเลย ซ้ำยังทำให้รอยแดงจากสิว รอยหลุมสิวดีขึ้นอย่างรวดเร็ว ซึ่งก็เป็นไปในแนวทางเดียวกับแพทย์ผิวหนังทั่วโลกที่หันมาใช้แสงเลเซอร์ในการรักษาสิวซึ่งใน3ปีที่ผ่านมาได้มีผลงานวิจัยถึงข้อดีในการรักษาสิวด้วยแสงมากมายหลาบฉบับ ดังนั้น
หากไม่อยากให้หน้าบาง ผิวอ่อนแอ เป็นสิวเรื้อรัง เลเซอร์ Vbeam และ SmoothBeam เป็นทางเลือกที่เหมาะสมครับ

นพ.วิสิฏฐ ศรีสนิท
พบ.รามาธิบดี
Diploma in Dermatology

:: Share This ::

ผิววัยรุ่น

วัยรุ่นเป็นช่วงอายุที่มีการเปลี่ยนแปลงในทุกๆด้าน ทั้งร่างกายและจิตใจ ช่วงวัยรุ่นผู้ชายเริ่มมีกล้ามเนื้อที่แข็งแรง รูปร่างที่บึกบึน เสียงแตก มีความกล้าแสดงออกอยากเป็นผู้นำ ส่วนผู้หญิงเริ่มมีสรีระส่วนเว้าโค้ง สนใจในเรื่องความสวยความงามมากขึ้น แล้วความเปลี่ยนแปลงทางด้านผิวล่ะ

การเปลี่ยนแปลงทางผิวหนังที่สังเกตุได้ชัดคือ หน้ามันเพราะต่อมไขมันผลิตน้ำมันมาก เริ่มมีหนวดเครา ขนรักแร้ และปัญหาสำคัญที่สุดคือ สิว ใครบอกว่าสิวไม่สำคัญ เป็นเรื่องธรรมชาติ ไม่ต้องดูแลรักษา อันนี้เป็นสิ่งที่ไม่ถูกต้องเพราะ เมื่อเกิดสิวจะทำให้เด็กขาดความมั่นใจ ไม่กล้าแสดงออก บางรายถึงกับเป็นโรคซึมเศร้า ขาดเรียน และต้องเป็นที่ยอมรับกันว่าปัจจุบันรูปร่างหน้าตาที่ดีเป็นส่วนสนับสนุน หน้าที่การงานในอนาคตด้วย

เมื่อรับรู้ถึงปัญหาสิวแล้ว ทำอย่างไรล่ะถึงจะทำให้สิวไม่มาย่างกลายผิวของวัยรุ่น หมอมีคำแนะนำดังนี้

1. ล้างหน้าวันละ 2 ครั้ง โดยสบู่อ่อนๆ ล้างหน้าตามแนวของเส้นขน  เพื่อหลีกเลี่ยงการอุดตันของรูขุมขน

           

2. ทานอาหารในกลุ่มพืชผัก ปลาทะเล อาหารทะเลเพราะมีสารต้านอนุมูลอิสระ

3. นอนหลับพักผ่อนอย่างเพียงพอ

4. หลีกเลี่ยงอาหารจำพวก นม เนย ถั่ว เค้ก ช็อกโกแลต ข้าวซ้อมมือ วิตามินรวม แอลกอฮอลล์

         

5. หลีกเลี่ยงการใช้เครื่องสำอางค์ โดยเฉพาะครีมกันแดด แป้งผสมรองพื้น

6. หลีกเลี่ยงการทายาสเตียรอยด์ มักอยู่ในรูปของครีมแก้แพ้ แก้ผดผื่น

7. หลีกเลี่ยงการแกะสิว กดสิว ฉีดสิวเพราะจะทำให้เกิดรอยหลุมสิว

ถ้าปฏิบัติตัวแล้วสิวยังเกิดขึ้นอีกไม่ต้องกังวล อย่าดันทุรังไปซื้อครีมแก้สิวมาทาเอง เพราะจะทำให้ปัญหายิ่งบานปลาย ปรึกษาแพทย์ผิวหนังดีกว่าครับ แล้วจะเลือกรับการรักษาสิวอย่างไรดีล่ะ

ติดตามได้ในบทความฉบับหน้า

:: Share This ::

Smooth Beam เลเซอร์เพื่อการรักษาสิว

เดือน ก ค. 49 ที่ผ่านมา มีรายงานวิชาการตีพิมพ์ในวารสารแพทย์ผิวหนังสหรัฐอเมริกา (Journal of American Academy in Dermatology หน้า 80-87 ) เป็นงานวิจัยเกี่ยวกับการใช้แสงเลเซอร์ 1450 mm diode (SmoothBeam ) มารักษาสิวอักเสบ โดยทดลองยิงเลเซอร์ทั่วใบหน้า ของอาสาสมัคร 20 คน ทั้งหมด 3ครั้ง ห่างกันครั้งละ 3-4 สัปดาห์
ผลการวิจัยพบว่า จำนวนสิวลดลง 70.6-75.1% หลังการรักษา 3 ครั้ง และยังคงผลการรักษานี้ไปอีก 1 ปีหลังการรักษา ทั้งยังทำให้รอยแผลเป็นจากสิวดีขึ้น ความมันบนใบหน้าลดลง

“ผลจากงานวิจัยฉบับนี้นำไปสู่ทางเลือกในการรักษาสิวอักเสบ รอยแผลเป็นจากสิว ที่สะดวก ปลอดภัย เหมาะสำหรับคนไข้ที่ไม่ต้องการความยุ่งยากในการทายา กลัวผลข้างเคียงของยารับประทาน หรือกลุ่มคนไข้ที่มีข้อห้าม ในการใช้ยา เช่น ผู้มีปัญหาโรคตับ แพ้ยา เป็นต้น”

ในด้านความปลอดภัย เลเซอร์ 1450 mm diode เป็นเลเซอร์ในกลุ่มที่ไม่ทำให้เกิดสะเก็ดแผล (Non-ablative Laser) ภายหลังการทำเลเซอร์สามารถประกอบกิจวัตรประจำวัน เช่น ล้างหน้า แต่งหน้าได้ตามปกติ

ส่วนการทำเลเซอร์ 1450 mm diode จะทำให้เพิ่มอัตราเสี่ยงของมะเร็งผิวหนัง หรือไม่นั้น คำตอบคือ เลเซอร์ 1450 mm diode เป็นแสงในช่วงคลื่นอินฟาเรดไม่ก่อให้เกิดมะเร็งผิวหนัง ยืนยันได้จากคณะแพทย์ที่ทำการวิจัยนี้อยู่ที่ M.D. Andersan cancer center ซึ่งเป็นสถาบันรักษาโรคมะเร็งชั้นนำของประเทศสหรัฐอเมริกา ตอกย้ำถึงความปลอดภัยของเลเซอร์ 1450 mm Diode

:: Share This ::