fbpx

Thermage รุ่นใหม่ FLX ดีกว่ารุ่นเก่า CPT จริงไหม ดีกว่าขนาดไหน ??

เทคโนโลยี กับ ของใหม่ เป็นสิ่งคู่กัน แต่บางครั้งของใหม่ใช่ว่าจะดีกว่าของเก่าเสมอไป
Thermage รุ่นใหม่ FLX มีดีอย่างไร??

ปัญหาใหญ่ของการทำ Thermage CPT คือ เวลาในการทำ กล่าวคือ มันนานพอสมควร แม้แต่แพทย์อย่างผมยังรู้สึกเหนื่อยเวลาทำ Thermage โดยระยะเวลาทำโดยประมาณ 1200 ช้อต คือ 1.30ชม. และจะมากกว่าถ้าเป็นแพทย์ที่ประสบการณ์ยังน้อย

ดังนั้น Thermage FLX จึงแก้ไขเรื่องนี้โดยการ………..
เพิ่มขนาดของหัวทิป จาก 3ตารางเซน เป็น 4 ตารางเซน พร้อมทั้งเปลี่ยนเซนเซอร์ จาก4point center+border เป็น 4 Point border จาก 3ตารางเซน เป็น 4 ตารางเซน ทำให้เราลดจำนวนช้อตจาก 1200ช้อต เหลือ 900 ช้อต เพื่อให้ได้ผลลัพธ์เท่าเดิม ( หัว FLX มีมากที่สุดคือ 900ช้อต ไม่ใช่ 1200 ช้อตของ CPT ) ดังนั้นสามารถล่นระยะเวลาการทำลงมาได้ 20% ประมาณ 18 นาที
แต่……………
จากการทดลองทำ Thermage FLX
การเปลี่ยน 4 point border และ tip ที่ใหญ่ขึ้นทำให้การยิงแต่ละนัดยากขึ้่น เสียเวลาแก้ไข error ในการยิงมากกว่าปกติ ดังนั้น 18นาทีที่ได้มาเลยกลายเป็นว่า อาจจะทำนานกว่าเดิม

การเปลี่ยน tip ที่ใหญ่ขึ้น ความร้อนสะสมมากขึ้น ผลข้างเคียงจะมากขึ้นตามไหม ต้องรอดูงานวิจัยต่อไปครับ แต่ตามประสบการณ์ผม ยิงยากขึ้่นแน่ๆ

สิ่งที่เหมือนเดิม คือ พลังงานที่ยิงออกมา ลึก 4.3 มม. เท่ากับทิปส้มใน Thermage CPT
แปลว่า ผลการรักษาเหมือนเดิม ไม่แตกต่าง

ดังนั้นสรุปคร่าวๆว่า FLX ข้อดีคือทิปใหญ่ขึ้น แต่จะทำเร็วขึ้นรึเปล่านั้น คงขึ้นกับฝีมือของแพทย์นั้นๆ ครับ ส่วนผลการรักษาเหมือนเดิมระหว่างทิปสีม่วงของ FLX กับทิปส้มใน CPT แต่ถ้ากับทิปน้ำเงินใน CPT แล้ว FLX ลงลึกกว่าครับ

+++++++++ถ้าจะให้ผมซื้อเครื่องFLX แล้วคิดค่ารักษาคนไข้เพิ่มขึ้นหลายๆหมื่น ผมขอใช้ CPT ต่อไปดีกว่าครับ ❤❤+++++++++++

comment จริงๆสิ่งที่อยากได้จาก thermage ในมุมมองหมอวิสิฏฐ คือ ขอ tip ที่พัฒนาด้านผลการรักษา ลงลึกมากขึ้น จะน่าสนใจมากกว่าครับ

:: Share This ::

Combination Therapy

บทความนี้มาพูดถึงการดูแลด้านความงามให้ปลอดภัย และทำอย่างไรให้ผลลัพธ์ดีที่สุดครับ
ปัจจุบันหมอจะพบคนไข้ที่มีปัญหาที่เกิดจากการดูแลด้านความงามบ่อยมากๆ ขึ้น ส่วนหนึ่งป้องกันได้ยาก อีกส่วนหนึ่งสามารถป้องกันได้ วันนี้เรามาคุยถึงสิ่งที่ป้องกันได้กันครับ

หลักใหญ่ๆเลยในการดูแลด้านความงาม คือ
1. เลือกการรักษาให้ถูกกับสภาพผิวที่เป็น
2. อย่าทำอะไรเกินตัว หรือ เกินประสิทธิภาพของเครื่องมือที่จะทำได้

หมอยกตัวอย่างให้ดูครับ
คนไข้ A รู้สึกหนังตาหย่อน อยากให้คิ้วยกขึ้น เราจะดูแลคนไข้คนนี้ยังไง ??
อันดับแรก พิจารณาก่อนครับ ว่าเป็นมากน้อยขนาดไหน ทางเลือกมี 2 ทางใหญ่ๆ คือ ผ่าตัด กับ ไม่ผ่าตัด
ถ้าต้องผ่าตัดก็นัดคนไข้ไปผ่ากับหมอศัลยกรรมที่เชื่อถือได้ ถ้าไม่ผ่าก็ต้องประเมินต่อว่าจะรักษาด้วยวิธีการใดดี เลือกให้ถูกคนไข้ก็ไม่ต้องเสียเวลาและเงินทอง ตามข้อ 1 ครับ
ถ้าไม่ผ่าตัด มีวิธีการใดบ้างที่จะช่วยยกกระชับคิ้วให้ดีขึ้น เราต้องประเมินถึงประสิทธิภาพและความปลอดภัยของการรักษานั้นๆให้คนไข้ สิ่งที่ผมพบบ่อยๆคือ พยายามทำอะไรก็ตามเกินศักยภาพของตนเองที่ทำได้ เช่น
1. พยายามไปยกคิ้วด้วยการฉีด botox ทำให้บางครั้งเกิดผลข้างเคียง หนังตาตก ตามที่เป็นข่าวตามหน้าหนังสือพิมพ์บ่อยๆ อันนี้เกิดจากการที่ไปฉีดในที่ที่เสี่ยง ถ้าไม่เกิดเรื่องก็ดีไป ถ้าเกิดเรื่องจะได้ไม่คุ้มเสีย
2. พยายามยกคิ้วด้วยเลเซอร์ที่ไม่เฉพาะเจาจงในการยกคิ้ว ทำให้ต้องเพิ่มพลังงานในการยิงมากๆเพื่อให้ได้ผล ถ้าไม่เกิดภาวะแทรกซ้อนก็ดีไป แต่ถ้าเกิดการไหม้ คนไข้ก็ทุกข์ครับ
ดังนั้น การพิจารณาการรักษามันเป็นศิลปะของแพทย์ ผมปนะนำให้ยึดหลักปลอดภัยไว้ก่อนเสมอครับในการดูแลด้านความงาม

Combination Therapy คืออะไร?
Combination Therapy คือหลักที่ไม่มีอะไรดีที่สุดในการรักษาครับ เพราะฉะนั้นบางครั้งการรักษาภาวะใดภาวะหนึ่งอาจจะต้องใช้เครื่องมือหลากหลายชนิดในการรักษา เพื่อที่จะให้ประสิทธิภาพของการรักษาดีขึ้น และ ช่วยลดผลข้างเคียงที่เราจะต้องเสี่ยง
หากมีตัวเลือกในการรักษาน้อย
… หมอลองยกตัวอย่างครับ
ยกกระชับใบหน้า ulthera + Thermage
รอยย่นรอบดวงตา ulthera + botox
ร่องแก้ม ulthera + Filler
รอยหลุมสิว Vbeam + Fraxel
สิวบริเวณคาง Vbeam + Smoothbeam + GentleYAG

นพ. วิสิฏฐ ศรีสนิท
SVJ clinic

 

:: Share This ::

Ulthera คืออะไร??

Ulthera คืออะไร??
Ulthera คือเครื่องมือยกกระชับผิวโดยไม่ต้องผ่าตัด โดยหลักการคือการใช้พลังงานจาก focusing ultrasound ไปทำให้ชั้นผิวหนังชั้น smas เกิดการหดตัว ทำให้ผลที่ได้คือการยกกระชับผิว ซึ่งเป็นเทคนิคเดียวกับการผ่าตัดยกหน้า ประสิทธิภาพยังด้อยกว่า
การผ่าตัดแต่ข้อดีคือ ไม่ต้องผ่าตัด และ สามารถทำได้ในคนที่อายุน้อย

Ulthera ปลอดภัยมั้ย??
เทคโนโลยีคลื่น ultrasound ใช้มานานมากๆ ไม่มีผลกระทบต่อผิวหนังและร่างกาย ดังนั้นปลอดภัยมากๆ และ ulthera ผ่านอย.ทั้งไทยและสหรัฐอเมริกา

ทำบ่อยแค่ไหน??
สามารถทำได้บ่อย 8-12เดือนต่อครั้งครับ

วิธีเลือกเครื่อง ulthera ของแท้??
บนเครื่องและหัวยิง จะมีโลโก้ ulthera อยู่ถ้าไม่มีแสดงว่าไม่ใช่  ulthera

ทำอย่างไรจึงจะได้ผลดี??
ขึ้นกับประสบการณ์ของแพทย์ และ เทคนิคการยิง ulthera ครับ สำคัญที่สุด

นพ.วิสิฏฐ ศรีสนิท
SVJ CLINIC

 

:: Share This ::

ดำไม่หายจากการทาครีมหน้าขาว

ครีมหน้าขาวคืออะไร??
การทาครีมเพื่อให้ผิวขาวขึ้นนั้นสามารถทำได้โดยการใส่สารต่างๆเข้าไปในครีมเพื่อหวังผลคือ
1. ลอกผิวชั้นบนออกทำให้หน้าขาวใสขึ้น ส่วนผสมเหล่านี้มักได้แก่ กรดชนิดต่างๆเช่น AHA BHA vitaminA
2. สารยับยั้งการสร้างเม็ดสี เช่น ไฮโดรควิโนน อัลบูติน ลิโครไลซ์
3. สารกลุ่มสเตียรอยด์
เมื่อมีการไปลอกผิวและยับยั้งการสร้างเม็ดสีก็จะทำให้สีผิวขาวใสขึ้น ในคนที่เป็นรอยสิวก็จะรู้สึกว่ารอยสิวนั้นแลดูจางลง
เหมือนคนที่เป็นฝ้า

ใช้ได้ติดต่อกันนานขนาดไหน??
ความจริงแล้วการใช้สารเหล่านี้ทำให้ผิวขาวขึ้นจริงแต่จะทำให้สภาพผิวอ่อนแอลง ผิวไม่สบาย แพ้ง่ายกลัวแสง อันนี้เป็นสิ่งที่ต้องแลกกับความขาว

ถ้าอย่างนั้นเลิกใช้แล้วผิวจะกลับมาแข็งแรงเหมือนเดิมหรือไม่??
ถ้าผิวยังไม่เสียหายมากจนเกินไปสามารถรักษาให้กลับมาแข็งแรงเหมือนเดิมได้ครับ แต่ต้องแลกกับการที่จะไม่ขาวใสเหมือนช่วงที่ทาครีม คือต้องเลือกเอาระหว่างผิวสบายหรือผิวขาว

มีภาวะแทรกซ้อนใดที่ถ้าใช้ครีมเหล่านี้ไปนานๆแล้วเกิดอันตรายกับผิวจนไม่สามารถแก้ไขได้มั้ย??
มีครับ ภาวะนี้ทางการแพทย์เราเรียกว่า orchronosis หรือรอยดำถาวรที่เกิดจากการลอกผิวด้วยครีม อาการคือจะมีรอยดำลักษณะคล้ายๆ สีเทาน้ำเงินเกิดขึ้นโดยส่วนใหญ่เริ่มต้นบริเวณแก้มก่อน รอยนี้เกิดจากการที่ผิวถูกขัดให้ขาวเป็นระยะเวลานาน ( อาจจะถึง10ปีก็เป็นได้ ) หลังจากผิวที่ถูกฟอกขาวนานเกินไปทำให้ระบบสมดุลย์ของผิวกับเม็ดสีเปลี่ยนไปเกิดเป็นรอยดำถาวรขึ้น

อาจารย์ช่วยอธิบายเรื่องราวแบบง่ายๆของคนไข้ที่เป็นรอยดำถาวรให้ฟังหน่อยได้มั้ยคะ??
ยกตัวอย่างคนไข้ละกันครับ มีคนไข้อยู้คนนึงเริ่มต้นจากการอยากผิวขาวใส จึงดูแลตัวเองด้วยการทาครีมบำรุงผิวตามท้องตลาด ทาไปก็รู้สึกดีขาวขึ้นชอบใจ ต่อมาอยากสวยมากกว่าเดิมจึงเข้าไปพบแพทย์สวยงาม แพทย์ทำการดูแลด้วยทรีตเมนต์ต่างๆซึ่งส่วนมากก็คือ AHA ยิ่งทำยิ่งสวยยิ่งขาวก็ทำสืบเนื่องกันมา ต่อมาผิวเสียสมดุลย์เริ่มมีรอยดำเกิดขึ้น พร้อมกับอายุที่มากขึ้น คนไข้กับหมอก็คิดว่าเป็นฝ้า การรักษาลอกฝ้ายิ่งดุเดือดมากขึ้น การลอกผิวใช้ยาที่รุนแรงมากขึ้น สุดท้ายเกิดภาวะ orchronosis หรือดำถาวรขึ้นมาครับ ส่วนใหญ่บทสรุปมักสรุปผิดแทนที่จะสรุปว่าดำถาวรจากการลอกผิวมากเกินไปกลายว่าเป็นจากฝ้าลึก เหตุการณ์ที่หมอเล่าทั้งหมดใช้เวลานานนับ10ปีครับ เพราะฉะนั้นการที่จะป้องกัน orchronosis จึงเป็นเรื่องยากเพราะถ้าจะป้องกันไม่ให้ดำถาวรได้คนไข้ต้องแลกกับผิวที่ไม่ขาวใสถึง10ปี

การป้องกัน orchronosis ทำได้อย่างไรคะ??
ต้องยึดหลักทำผิวให้สบาย normal skin ครับ
สวยใสแบบผิดธรรมชาติต้องเลี่ยงซึ่งยากในปัจจุบันครับ

นพ.วิสิฏฐ ศรีสนิท
SVJ Clinic

 

:: Share This ::

Fresh cell & Stem cell จริงหรือหลอกที่ทำให้ไม่แก่??

คิดอยู่นานครับว่าจะเขียนบทความนี้หรือไม่?? เพราะคงมีหลายๆคนเชื่ออยู่ไม่ใช่น้อยเกี่ยวกับการใช้สารตัวอ่อน หรือ stem cell หรือ fresh cell หรือ placenta หรือ live cell หรือ อื่นๆอีกมากมายแล้วแต่ใครจะบัญญัติ แต่ที่ต้องเขียนเพราะกังวลกับสังคมในปัจจุบันครับ ที่เราเอาข้อเท็จจริงไม่ครบด้านมาพูดกัน

หมอขอแสดงข้อเท็จจริงจากราชวิทยาลัยอายุรกรรมซึ่งเป็นเรื่องข้อเท็จจริงแท้ๆมาให้อ่านนะครับ

ดังนั้นลองพิจารณากันดูก่อนทำนะครับว่าอยากจะเป็นหนูทดลองในการรักษาเพื่อความอ่อนเยาว์หรืออดใจอีกนิดถ้าผลทดลองดีและปลอดภัยแล้วค่อยมารักษากัน ตรองดูดีๆครับเพราะค่าทดลองไม่ใช่จะถูกๆ

ลิงก์ข้อมูลจากราชวิทยาลัย
http://www.rcpt.org/index.php/e-news/127-2013/323-2013-09-11-13-31-18.html
http://dcd.hss.moph.go.th/uploadFiles/document/D00000001160_25434.pdf
http://www.manager.co.th/QOL/ViewNews.aspx?NewsID=9560000112442

ข้อมูลอีกด้านนึง
ง่ายๆครับลองพิมพ์คำว่า stem cell เพื่อความสวย ในgoogle
แล้วท่านจะพบว่ามีการใช้ stem cell แบบผิดจากข้อเตือนภัยจากราชวิทยาลัยเยอะมากๆ

นพ.วิสิฏฐ ศรีสนิท
SVJ clinic

 

 

 

:: Share This ::

ผิวขาวคือผิวสวยจริงเหรอ??? ระวังขาวมากๆผิวจะพัง!!!

คำตอบในการดูแลผิวในปัจจุบันว่าดีไม่ดี ,,, ส่วนใหญ่คือ ผลลัพธ์ของผิวที่ขาว
ดังจะเห็นในโฆษณาบ่อยๆว่าความลับของผิวสวยคือผิวขาว เรื่องนี้จริงหรือไม่จริงครับ
หมอตอบเลยว่าไม่จริง การทำให้ผิวขาวคือการลอกผิวชั้นบนออกจึงทำให้ผิวดูขาวขึ้นแต่ข้อเสียทำให้ผิวบาง
ซึ่งไม่คุ้มกันซะเลย

แต่ในปัจจุบันโดยส่วนใหญ่เราจะประเมินถึงสุขภาพผิวโดยดูที่ความขาว ยิ่งทำอะไรแล้วขาวแสดงว่ายิ่งบำรุงผิวดีต้องยิ่งทำให้มากขึ้น ประเด็นนี้น่ากลัวครับ เพราะยิ่งทำให้ผิวขาวก็จะยิ่งทำให้ผิวบาง ผิวยิ่งบางก็จะทำให้ผิวอ่อนแอ
มีปัญหาสิวผด ฝ้าตามมา  ปัญหาผิวขาวแล้วบางอันนี้แก้ยากมากๆครับ เพราะส่วนใหญ่กว่าที่คนไข้จะขัดหน้าให้บางกว่าจะมารู้ตัวก็ใช้เวลาหลายๆปี บางครั้งจับต้นชนปลายไม่ถูกว่าทำไมตนเองถึงผิวบาง จะจับผิดแต่ครีมตัวสุดท้ายที่ใช้แต่หารู้ไม่ว่าเป็นเพราะครีมทุกๆตัวที่ใช้มาตั้งนานนั่นแหละครับที่ร่วมกันเป็นจำเลยเท่าๆ กัน

ดังนั้นหมออยากให้ประชาชนปรับทัศนคติ อย่าคิดว่าผิวขาวคือผิวที่แข็งแรงครับ อย่าแข่งกันขาวเลยเพราะจะทำให้ผิวเสียก่อนวัยอันควร

 

:: Share This ::