fbpx

สเตียรอยด์ ( Steroid ) คืออะไร(2)

หลังจากที่หมอเขียนบทความฉบับที่แล้วเรื่อง สเตียรอยด์คืออะไร ตอนที่1 หลังจากที่หมอเขียนบทความฉบับที่แล้วเรื่อง สเตียรอยด์คืออะไร ตอนที่1 บทความนี้เป็นตอนต่อของเรื่อง steroid ครับ ทุกวันนี้เป็นเรื่องยากมากที่ผมจะพยายามรักษาคนไข้ผิวหนังโดยไม่ใช้เสตียรอยด์ steroid เนื่องจากคนไข้ในปัจจุบันที่ดูแลเรื่องผิวพรรณอยู่นั้นติด
สเตียรอยด์โดยที่ไม่รู้ตัวอยู่ครับ และถามว่าทำไมถึงต้องติดยาตัวนี้ เหตุผลก็คือ ……………

**ทำความรู้จักกับสเตียรอยด์ตอนที่ 2**

1. สเตียรอยด์ Steroid มันทำให้ผิวสวย ขาวใส ได้ง่ายเร็วทันใจ หนำซ้ำราคาถูก หาซื้อง่าย ทั้งจากคลินิกแพทย์และตาม ร้านขายยาอย่างนี้ใครจะไม่ชอบมันล่ะครับ(ความจริงหมอผิวหนังเราถูกสอนมาไม่ให้ใช้สเตียรอยด์ อย่างพร่ำเพรื่อเนื่องจากกลัวคนไข้จะติด แต่เมื่อความต้อง การของคนไข้มากขึ้นอยากสวยเร็วๆ ทางด้านหมอก็ไม่ ยอมแพ้กันและกันเพราะรู้ว่าถ้าไม่ทำให้คนไข้สวยเร็วๆก็จะ ทำให้คนไข้คิดว่าตนเองไม่เก่ง เรื่องดังกล่าวจึงเป็นจุดเริ่ม ของการใช้สเตียรอยด์อย่างผิดวัตถุประสงค์ในปัจจุบัน ครับ)

2.   กว่าจะเกิดผลข้างเคียงจากการติดยาต้องใช้เวลานาน ระยะเวลาที่ทำให้ผิวเสียกินเวลาเป็นเดือนๆปีๆถึงจะมีผลข้างเคียง โดยสเตียรอยด์จะค่อยๆสะสมอยู่ใต้ผิวหนังทำให้ผนังหลอดเลือด ผิดปกติ ยังผลให้ผิวแดงง่าย ลดภูมิคุ้มกันของผิวทำให้ผิวแพ้ ง่ายทำให้คนไข้ติดกันแบบไม่รู้ตัว

 3.   ผลข้างเคียงจากความสวยที่ไม่ถาวรจากการทาสเตียรอยด์ นานๆ อาการคือ จะมีผื่นขึ้นง่าย เป็นสิวผดรอยแดงไม่หาย ผิวที่เคยขาวเริ่มกลายเป็นแดง ในช่วงนี้แพทย์อาจบอกว่าคุณเป็น ผิวแพ้ง่าย ผิว Sensitive บ้างล่ะ เป็นสิวฮอร์โมนบ้างล่ะ ซึ่งจริงๆ แล้วมันเกิดมาจากการที่คุณๆไปทำให้ผิวสวยอย่างผิดวิธีครับ

ส่วนใหญ่การทายาสเตียรอยด์กว่าจะมีผลข้างเคียงต้องใช้เวลานานครับระยะเวลาที่ทำให้ผิวเสียกินเวลาเป็นเดือนๆปีๆถึงจะมีผล มันจะค่อยๆสะสมอยู่ใต้ผิวหนังทำให้ผนังหลอดเลือดผิดปกติ ยังผลให้ผิวแดงง่าย ลดภูมิคุ้มกันของผิวทำให้ผิวแพ้ง่าย พอถึงจุดนี้ล่ะครับ เกิดอะไรขึ้น…………….สเตียอรอยด์ (steroid) มันทำให้ผิวสวย ขาวใส เวลาทาก็ไม่มีสิวไม่มีผื่นขึ้นมาให้กวนใจ หนำซ้ำราคาถูก หาซื้อง่าย ทั้งจากคลินิกแพทย์และตามร้านขายยา อย่างนี้ใครจะไม่ชอบมันล่ะครับ ความจริงหมอผิวหนังเราถูกสอนมาไม่ให้ใช้สเตียรอยด์ (steroid) อย่างพร่ำเพรื่อเนื่องจากกลัวคนไข้จะติด แต่เมื่อความต้องการของคนไข้มากขึ้นอยากสวยเร็วๆ ทางด้านหมอก็ไม่ยอมแพ้กันและกันเพราะรู้ว่าถ้าไม่ทำให้คนไข้สวยเร็วๆก็จะทำให้คนไข้คิดว่าตนเองไม่เก่ง เรื่องดังกล่าวจึงเป็นจุดเริ่มของการใช้สเตียรอยด์อย่างผิดวัตถุประสงค์ในปัจจุบันครับ

หลังจากผิวสวยใสจากการทาสเตียรอยด์ (steroid) มาเป็นเวลานาน ก็ถึงเวลาชดใช้ผลข้างเคียงจากความสวยที่ไม่ถาวรครับ หลังจากผิวมีความเปลี่ยนแปลงเป็นผิวบาง ติดสเตียรอยด์ อาการคือ จะมีผื่นขึ้นง่าย เป็นสิวผด รอยแดง
ไม่หาย ผิวที่เคยขาวเริ่มกลายเป็นแดง ในช่วงนี้แพทย์อาจบอกว่าคุณเป็นผิวแพ้ง่าย ผิวsensitive บ้างล่ะ เป็นสิวฮอร์โมนบ้างล่ะ ซึ่งจริงๆแล้วมันเกิดมาจากการที่คุณๆไปทำให้ผิวสวยอย่างผิดวิธีครับ วิธีแก้ไขล่ะ แก้อย่างไร…………

การแก้ไขการติดยาเสตียอรอยด์ steroid ผิวแพ้ง่าย ผิวsensitive อันกับแรกคือ ต้องตรวจสอบว่าติดสเตีรอยด์จริงรึเปล่า ถ้าวินิจฉัยได้ก็นำไปสู่การยอมรับว่าผิวที่สวยจากเสตียอรอยด์ steroid นั้นไม่ใช่ความสวยที่แท้จริง และ เป็นความสวยที่ให้โทษด้วย เมื่อยอมรับในข้อนี้แล้วก็จะนำไปสู่วิธีการที่จะทำให้ผิวสวยและแข็งแรงได้ครับ

การรักษาผิวติดสเตียรอยด์สามารถรักษาให้หายขาดได้แต่คนไข้ต้องมีกำลังใจในการรักษาครับ แพราะการรักษาผิวโดยไม่ใช้สเตียรอยด์นั้น มันจะช้า ไม่ทันใจเหมือนการใช้ยาครับ แต่ผมเชื่อสุภาษิตไทยว่า ช้าๆได้พล้าเล่มงาม ครับ

บทความที่ผมเขียนเรื่องสเตียรอยด์ก่อนหน้านี้ครับ

:: Share This ::

สเตียรอยด์ ( Steroid ) คืออะไร ( 1 )

คุณผู้อ่านบางท่านอาจจะยังไม่รู้ว่า สเตียรอยด์ ( Steroid ) คืออะไร บางท่านอาจรู้จักดีว่า สเตียรอยด์ ( Steroid ) คืออะไร บางท่านอาจจะรู้สึกรักและ in love กับสเตียรอยด์ แต่บางท่านอาจรู้สึกเกลียด ทนทุกข์ กับสเตียรอยด์อยู่ในขณะนี้
คุณผู้อ่านบางท่านอาจจะยังไม่รู้ว่า สเตียรอยด์ ( Steroid ) คืออะไร บางท่านอาจรู้จักดีว่า สเตียรอยด์ ( Steroid ) คืออะไร บางท่านอาจจะรู้สึกรักและ in love กับสเตียรอยด์ แต่บางท่านอาจรู้สึกเกลียด ทนทุกข์ กับกับสเตียรอยด์อยู่ในขณะนี้

**ทำความรู้จักกับสเตียรอยด์ ตอนที่ 1**
ถ้าพูดถึงยา สเตียรอยด์  ( Steroid ) หมอเชื่อว่าทุกคนเคยรู้จักมันในนาม ยาผีบอก ยาหม้อ ยาลูกกลอน ยาทาแก้แพ้
ที่ใช้รักษา ได้สารพัดโรค ยิ่งกว่าโครงการ 30 บาทรักษาทุกโรคอีก

ใช้รักษา ได้เกือบทุกโรค ไม่ว่าจะเป็นโรคผิวหนัง ภูมิแพ้  หอบหืด ปวดข้อ ปวดกระดูก ปวดเข่า  ไข้หวัด เจ็บคอ เวลาคนไข้มีอาการเหล่านี้ก็จะไปซื้อยาหม้อ ยาชุด ยาลูกกลอน มากินเอง เป็นประจำ กินไปชุดสองชุดก็หาย พอหยุดยาอาการเดิมๆก็กลับมาทันทีทันใด หากรับประทานมากๆจะทำให้เกิดอาการของ Cushing syndrome คือมีหน้าบวม
( moon face ) ตัวอ้วนแต่แขน – ขาเล็ก และอาจเกิดปัญหาต่อระบบอื่นๆในร่างกายอีกมากมายหากไม่หยุดยา

มีการนำยา Steroid มาใช้ในการฉีดผู้ป่วยที่มีอาการไข้หวัดหรืออ่อนเพลีย คนไข้ปวดข้อ ปวดกระดูกและ “ฉีดสิว”

ยาทาสเตียรอยด์มีให้เห็นทั้งร้านขายยา คลินิกแพทย์ หรือแม้แต่ตามตลาดนัดขายเครื่องสำอางค์สเตียรอยด์ในการรักษาสิวและความงาม

มีการนำยา สเตียรอยด์ (Steroid) มาใช้ในการรักษาสิว ทั้งรูปแบบของการฉีดสิวเพื่อให้สิวยุบเร็วๆ
ครีมทาผิวซึ่งส่วนใหญ่คนไข้จะรู้จักในนามของ ยาแก้แพ้ ยาทา 7 วัน ยาแก้ผดผื่น โดยที่ไม่ทราบว่ามันคือ ยาสเตียรอยด์ ( Steroid ) ทาปุ้บสิวฝ้าหายปั้บ

จะเห็นได้ว่ายา สเตียรอยด์ ( Steroid ) มันมาหาเราได้ทุกรูปแบบ ( กิน ฉีด ทา ) และทุกที่ ( ร้านขายยา ตลาดนัด คลินิก ) มีคุณมากแต่ก็มีโทษมหันต์ครับ ถ้าเรานำไปรักษาโรคก็ว่าไปอย่าง แต่ถ้านำมาใช้ทางด้านความผิวพรรณและความงาม

 

ผมไม่เห็นด้วยในสมัยที่หมอเป็นนักเรียนแพทย์มีบทกลอนแต่งถึงคนที่ติดสเตีรอยด์ดังนี้ครับหน้าจันทร์แรม (Cushinoid Face = หน้ากลมเหมือนพระจันทร์)
แถมอ้อยเชื่อม (Hyperglycemia = น้ำตาลในเลือดสูง)
เอื้อมไม่ไหว (Proximal Muscle Weakness) กล้ามเนื้อแขน และขาอ่อนแรง
ยายมีหนวด (Hirsutism = มีขนขึ้นที่หน้า หนวด เครา และทั่วร่างกาย)
ปวดกระดูก (Osteoporosis = กระดูกผุกร่อนได้ง่าย)
ลูกทะเล (Sodium Retention) = เกลือแร่ในเลือดสูง

 

เท่ห์เหมือนควาย (Buffalo Hump) บริเวณไหล่ 2 ข้างมีก้อนเนื้อนูนใหญ่ขึ้นลายหน้าท้อง (Striae) = ผิวแตกลาย หน้าท้อง แขน ขาหมอง Skin ( Hyper และ Hypopigment) = มีผิวหมองคล้ำ หรือ ขาวเป็นบางที่
หลังอ่านบทความฉบับนี้จบลองนึกดูครับว่าเราเคยใช้สเตีรอยด์ในรูปแบบไหนบ้าง

นพ. วิสิฏฐ   ศรีสนิท
Director of  SVJ  Laser  Clinic

:: Share This ::

ทำไมรอยแดงสิวไม่หาย

ปัญหาที่ยากที่สุดอย่างหนึ่งในการรักษาสิวของหมอก็คือ รอยแดงจากสิว ( Acne Redness )
รอยแดงจากสิวเกิดจาก การอักเสบของหลอดเลือดเล็กๆบริเวณผิวหนังที่เป็นสิว ดั่งที่เห็นในรูป

ตามปกติเส้นเลือดฝอยอักเสบชนิดนี้สามารถหายเองได้แต่ใช้เวลานานมากๆ อาจนานถึง1ปี ดังนั้น จึงมีการนำแสงเลเซอร์ในช่วงคลื่นที่เฉพาะเจาะจงกับการรักษาเส้นเลือดคือจุดที่ 595nm หรือ V-beam เลเซอร์ซึ่งเจ้าV-beam เลเซอร์จะไปทำให้เส้นเลือดที่ผิดปกติเหล่านี้ถูกทำลายหายไป โดยปกติจะใช้ระยะเวลาประมาณ 2-3 เดือนหรือเร็วขึ้นกว่าการปล่อยให้หายเองประมาณ 4-6 เท่า

แต่สาเหตุอะไรล่ะที่ทำให้รอยแดงสิวแย่ลง หรือรักษาอย่างไรก็ไม่หายแม้จะใช้ Vbeam ไม่หายหรือดีขึ้นแต่ช้ามาก

คำตอบคือ การใช้ยาทารักษาสิวและรอยสิวในประเภท peeling agent , steroid การใช้สารลอกหน้าหรือยาประเภทนี้จะทำให้ผิวบางลง เกิดเส้นเลือดผิดปกติได้ง่าย ยกตัวอย่างเช่นถ้าน้องๆเอามือถูๆๆๆผิวตัวเองนานๆ เริ่มแรกจะรู้สึกดีมาก เพราะผิวหนังชั้นนอกจะสลายไปทำให้ผิวแลดูขาวขึ้นแต่เมื่อถูไปนานๆ ผิวบริเวณนั้นจะบางลงทำให้เกิดรอยแดงขึ้น ซึ่งเมื่อนำมาเรียบเทียบกับรอยแดงสิวก็เหมือนกัน ถ้าน้องๆยังทายาที่มีส่วนประกอบการฟอกสีผิว สารsteroid ยิงVbeam.ให้ตายก็ไม่หายครับ และปัจจุบันพบเคสมาปรึกษาหมอเรื่องไปยิงเลเซอร์ หรือIPLจากที่อื่นมาแล้ว burn มากขึ้นเรื่อยๆ สาเหตุก็คงไม่พ้นจากเรื่องใช้ครีมจนหน้าบาง แล้วถูกเชียร์ทำเลเซอร์อีกตามเคย

อยากหายจากรอยสิวด้วยเลเซอร์ Vbeam อย่างปลอดภัย หมอมีวิธีครับ
SVJ Laser Clinic เรารักษคนไข้โดยปราศจากสารสเตียรอยด์

           
นพ.วิสิฏฐ ศรีสนิท
พบ.รามาธิบดี
Diploma in Dermatology

:: Share This ::

สิวกับผิวแพ้ง่าย( ผิว sensitive )

ปัจจุบันหมอพบว่าคนไข้ที่มารักษาสิวที่ SVJ มีจำนวนไม่น้อยที่มีปัญหาสิวที่เกิดจากการแพ้ ใช้ครีมหรือผลิตภัณท์อะไรนิดอะไรหน่อย หรือไปเที่ยวต่างจังหวัดต่างประเทศก็สิวขึ้น และนับวันยิ่งเพิ่มจำนวนขึ้นเรื่อยๆ ทั้งๆที่ สิว กับ ภูมิเพ้
มันคนละโรคกันและมักไม่เกิดขึ้นพร้อมกัน ทำไมล่ะจึงมีคนไข้กลุ่มนี้มากขึ้น

หมอขอเกริ่นก่อนนะครับ ความเข้าใจพื้นฐาน คนที่เป็นสิวมักผิวมัน คนที่เป็นภูมิแพ้ล่ะผิวมันหรือผิวแห้ง คำตอบคือ
ผิวแห้งครับ และคนที่เป็นสิวภูมิแพ้ล่ะ ผิวมันหรือแห้ง??? ตามปกติคนที่เป็นสิวมักไม่เป็นภูมิแพ้ เนื่องจากคนไข้มีภาวะที่มีการทำงานของต่อมไขมันที่ดี หรืออาจมีมากเกินไปด้วยซ้ำ ส่วนคนที่เป็นภูมิแพ้ก็มักไม่เป็นสิว เนื่องจากสภาพผิวหนังที่แห้งไม่เหมาะกับการเจริญเติบโตของเชื้อสิว แล้วเหตุใดล่ะที่ทำให้คนไข้มีปัญหาสิวภูมิแพ้

คำตอบคือ เกิดจากยารักษานั่นเอง ปัจจุบันมียาตัวหนึ่งชื่อว่า “สเตียรอยด์” ถ้าเริ่มต้นจากคุณเป็นภูมิแพ้และทายาตัวนี้นานๆ จะทำให้กระตุ้นการเกิดสิวได้ เป็นสิวก็ใช้ยารักษาสิวที่มีฤทธิ์ทำให้เกิดการลอกผิว หน้าแห้ง พอหน้าแห้งอาการภูมิแพ้ก็กำเริบ ดังนั้นคนไข้ก็จะวนเวียนอยู่ในการรักษาไม่รู้จักจบจักสิ้น  ถ้าเริ่มต้นจากคุณเป็นสิว และเริ่มต้นการรักษาสิวด้วยการลอกหน้า ทาครีม ฉีดสิวด้วยสเตียรอยด์ ทำไปนานๆผิวหน้าก็เริ่มบาง อ่อนแอ พออ่อนแอก็แพ้ง่าย ยิ่งแพ้ง่ายก็ยิ่งทาสเตีรอยด์ เห็นไหมล่ะครับสรุปก็วนเวียนเหมือนปัญหาแรกไม่มีผิด

เบื่อรึยังกับเจ้าสเตียรอยด์ ถ้าเบื่อหมอมีวิธี SVJ Laser Clinic เราเป็นคลินิกที่มีความมุ่งมั่นในการรักษาสิวโดยปราศจากสเตียรอยด์

                           

นพ.วิสิฏฐ ศรีสนิท
พบ.รามาธิบดี
Diploma in Dermatology

:: Share This ::

Update Vbeam กับการรักษาสิว

เนื่องด้วยการรักษาสิวในปัจจุบันมีหลากหลายวิธี ทั้งการกินยา ทายา กดสิว ฉีดสเตียรอยด์ ทำทรีตเมนต์ และล่าสุดคือการใช้เลเซอร์รักษา ซึ่งทาง SVJ Laser Clinic เรามีความมุ่งมั่นที่จะรักษาสิวด้วยแสงเลเซอร์ โดยไม่กดสิว
ไม่ฉีดสิว ไม่ใช้สเตียรอยด์ และลดปริมาณการใช้ยาลงให้เหลือน้อยที่สุด เพื่อเป็นทางเลือกที่ดีที่สุดของผู้ป่วยสิว

3 ปีที่เรายึดมั่นในแนวทางการรักษานี้ ทำให้ปัจจุบันการใช้เลเซอร์ SmoothBeam & Vbeam เพื่อรักษาสิวเป็นที่พูดถึงกันอย่างมาก เลเซอร์มีบทบาทในการรักษาสิวมากขึ้น

  • เลเซอร์ Smoothbeam ช่วยดูแลคนไข้สิวที่ดื้อต่อการรักษาด้วยยา
  • เลเซอร์ Vbeam ช่วยรักษารอยแดงสิวที่ทายามานานก็ไม่หายซักที

เลเซอร์ Vbeam ช่วยดูแลคนไข้หน้าบางจากการติดยาแก้แพ้ และเลเซอร์ยังช่วยแก้ปัญหาอื่นๆอีกมากมาย นี่คือเรื่องราวต่างๆเหล่านี้เกิดขึ้นใน 3 ปีที่ผ่านมาและเราไม่ใช่แพทย์เพียงกลุ่มเดียวที่มุ่งมั่นในการรักษาสิวด้วยเลเซอร์ ในงานประชุมที่จัดโดยบริษัท Beammed เมื่อเดือนพย. 51 ที่ผ่านมา ได้มีงานวิจัยเรื่องการรักษาสิวขั้นปานกลางถึงรุนแรงด้วยเลเซอร์ Vbeam ซึ่งทำการวิจัยที่สถาบันโรคผิวหนังกรุงเทพ โดย อาจารย์แพทย์ จินดา โรจนเมธิน ซึ่งได้ผลสรุปงานวิจัยว่า การใช้เลเซอร์ 595-pulse dye laser ( Vbeam ) โดยไม่เปิด cryogen spray สามารถนำมาใช้ในการรักษา
สิวอักเสบได้ดีและปลอดภัย ซึ่งเป็นการยืนยันว่าเลเซอร์เข้ามามีบทบาทในการรักษาสิวยุคปัจจุบัน

นพ.วิสิฏฐ ศรีสนิท
พบ.รามาธิบดี
Diploma in Dermatology

:: Share This ::

การตัดสินใจเลือกวิธีการรักษาสิว

หมอเจอคนไข้ที่เป็นสิวที่มีอายุระหว่าง 30-40 ปีแทบทุกคนจะเคยรักษาสิวมานานนับ 10 ปีแล้วก็ยังไม่หาย
ถามว่าสาเหตุเกิดจากอะไร คำตอบมีดังนี้
1. การรักษาสิวที่ผ่านมาไม่ได้มุ่งเน้นไปที่การทำให้สิวหาย โดยการเจาะสิว กดสิว ฉีดสิว ทำให้โพรงขน
เกิดความเสียหาย จากท่อตรงๆที่น้ำมันขับถ่ายได้ดี กลายเป็นท่อที่คดเคี้ยวเกิดการอุดตันได้ง่าย
2. การใช้ยาสเตียรอยด์ที่มากเกินไป เนื่องจากการรักษาสิวที่ต้องใช้สารลอกผิวหน้าเช่น AHA, BP, Vitamin A,
การทำ Dermabrasion สิ่งต่างๆเหล่านี้ ทำให้ผิวอ่อนแอลงเมื่อถึงจุดๆนึงก็จะเกิดอาการแพ้เป็นผด จึงต้องให้
ยาสเตียรอยด์ยิ่ทาก็ยิ่งติดทำให้เลิกยาไม่ได้
3. ความเบื่อหน่ายในการรักษา เพราะไปรักษาก็ถูกรักษาแบบเดิมๆ แม้เปลี่ยแพทย์แล้วก็ตามทำให้หมดศรัทธา
ในการรักษา

เราจะแก้ไขปัญหานี้อย่างไร??
1. เลิกวิธีการรักษาแบบเดิมเพราะพิสูจน์แล้วว่าไม่ได้ผล


2. เลิกการใช้สเตียรอยด์


3. หันมารักษาสิวโดยการอนุรักษ์โพรงขนให้อยู่ในสภาพเดิม

หมอได้ทำการรักษาสิวด้วยวิธีอนุรักษ์โพรงขน ไม่ใช้สเตีรอยด์โดยนำเทคโนโลยีแสงเลเซอร์ VBeam ,SmoothBeam มาร่วมในการรักษาสิว พบว่าได้ผลดีมากและสามารถลดการใช้ยา ไม่ต้องกดเจาะสิว ไม่ต้องฉีดสิวอีกเลย ซ้ำยังทำให้รอยแดงจากสิว รอยหลุมสิวดีขึ้นอย่างรวดเร็ว ซึ่งก็เป็นไปในแนวทางเดียวกับแพทย์ผิวหนังทั่วโลกที่หันมาใช้แสงเลเซอร์ในการรักษาสิวซึ่งใน3ปีที่ผ่านมาได้มีผลงานวิจัยถึงข้อดีในการรักษาสิวด้วยแสงมากมายหลาบฉบับ ดังนั้น
หากไม่อยากให้หน้าบาง ผิวอ่อนแอ เป็นสิวเรื้อรัง เลเซอร์ Vbeam และ SmoothBeam เป็นทางเลือกที่เหมาะสมครับ

นพ.วิสิฏฐ ศรีสนิท
พบ.รามาธิบดี
Diploma in Dermatology

:: Share This ::