fbpx

ทำไมผมไม่ทำไหมยกกระชับ??

มีคนไข้เข้ามาสอบถามผมถึงเรื่องการทำไหมละลายเพื่อการยกกระชับใบหน้าอย่างมากมายในช่วง 6 เดือนที่ผ่านมา บางคนอยากให้ผมทำให้ บางคนไปทำจากที่อื่นมาแล้วแต่ไม่มั่นใจเลยมาถามผมต่อ บางคนกำลังลังเลว่าจะทำ
ดีหรือเปล่าและสงสัยว่าทำไมผมถึงไม่ทำทั้งที่เป็นหัตถการที่กำลังเป็นที่นิยมอย่างสูงสุด รายได้ดี ต้นทุนต่ำ คำตอบเป็นดังนี้ครับ
1. เนื่องจากโดยส่วนตัวผมจะทำอะไรต้องรู้จริง รู้ลึก และ ที่สำคัญ สิ่งที่ทำให้คนไข้ของผมต้องมีมาตรฐานที่ดีที่สุดและปลอดภัยที่สุด ( คนที่เป็นคนไข้ผมจะรู้ดีครับว่าผมเป็นคนยังไง ) เรื่องราวของไหมอยู่ดีๆก็โผล่มาบอกว่าเป็นนวัตกรรมจากเกาหลี หมอเกาหลีทำกันเยอะ จากงานวิชาการที่ผมตามมามีน้อยมากที่เป็นงานเกี่ยวกับการร้อยไหมหรือ thread lifting ในสมัยก่อนมีการทำ thread lifting โดยไหม aptos ซึ่งผลิตมาเพื่อการ lifting โดยแฉพาะแต่ก็ไม่เป็นที่นิยมกัน ส่วนงานวิจัยเกี่ยวกับการใช้ไหมละลายที่เย็บผนังหลอดเลือดหัวใจมาใช้ในการกระตุ้นคอลลลาเจนยิ่งมีน้อยมาก จนทำให้ผมไม่มั่นใจว่าจะได้ผลจริงและสิ่งที่กลัวมากกว่านั้นคือ จะมีผลข้างเคียงระยะยาวคือเรื่องการเกิดพังผืดเกิดขึ้นตามมารึเปล่า
2. เส้นไหมที่นำมาทำเพื่อการกระตุ้นคอลลาเจนนั้นผ่านการรับรองจาก อย.ประเทศไทยรึเปล่า?? ยังไม่มีคำตอบเป็นที่แน่ชัด เพราะเส้นไหมที่นำมาใช้นั้นผ่านอย. ในด้านการให้ใช้เย็บแผล แต่ไม่ได้ผ่านในด้านของการสอดใส่ไปใต้ผิวหนังเพื่อการกระตุ้นคอลลาเจน
3. เทคนิคการทำมีมาตรฐานเพียงพอรึเปล่า ใครเป็นสถาบันมที่ฝึกสอนแพทย์ให้มีความชำนาญในการรักษา

จากประการหลักๆที่กล่าวมาทำให้ผมยังไม่ตัดสินใจที่จะทำการรักษาคนไข้ด้วยไหมละลายในขณะนี้ แต่ผมก็ยังเฝ้าติดตามงานวิชาการเกี่ยวกับการร้อยไหมอยู่ตลอด ถ้าวันใดการร้อยไหมเป็นหัตถการที่เป็นมาตรฐานเมื่อนั้นผมคงจะทำครับ และหลังๆมานี้ผมเจอcaseที่มีปัญหาจากการร้อยไหมมากขึ้น บางคนมีการติดเชื้อ บางคนเกิดพังผืดใต้ผิวหนัง
ซึ่งค่อนข้างรุนแรงและไม่น่าจะเกิดขึ้นจากหัตถการที่เสริมสร้างความสวยงาม

นพ. วิสิฏฐ ศรีสนิท

Director of SVJ Laser Clinic

:: Share This ::

น้ำกัดเท้า ทำอย่างไรดี

วันนี้หมอมีโอกาสได้ไปช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วมกับทางทหารกองทัพบกครับ ในเหตุการณ์น้ำท่วมใหญ่ครั้งนี้หมอขอแสดงความเสียใจกับผู้ประสบภัยทุกท่าน ( รวมถึงหมอด้วยครับ )และเป็นกำลังใจให้ทุกท่าน สู้ๆครับ

                  

ระหว่างที่ได้ไปช่วยผู้ประสบภัยเมื่อคุณทหารทราบว่าหมอเป็นหมอผิวหนังคำถามแรกที่ได้คือ หมอครับทำอย่างไรดีครับผมมีอาการน้ำกัดเท้า เริ่มมีอาการแสบๆคันๆบริเวณง่ามเท้าแล้ว ผมจึงซักประวัตินายทหารท่านนั้นต่อว่า
ต้องทำงานโดนน้ำวันละกี่ชม. มีเวลาพักแล้วทำอย่างไร จัดการอย่างไรกับสภาพผิวหนังบริเวณเท้าของตัวเอง คำตอบที่ได้คือ ต้องทำงานอยู่กับน้ำประมาณวันละ 10 ชม เวลาที่พักถ้ายังไม่ได้ถอดรองเท้าผิวหนังก็ยังเปียกอยู่อีก 6 ชม.
สรุปแล้ววันนึงเท้าแห้งไม่ถึง 8 ชม สัปดาห์แรกก็ยังไหวอยู่เพราะผิวยังแข็งแรง แต่พอเท้าเริ่มเปื่อยเริ่มลอกเป็นสีแดงทีนี้ล่ะเอาไม่อยู่เลย เล่นเอาแสบคันอย่าบอกใคร ทำอย่างไรดีครับหมอ?? โดยที่มีข้อแม้ให้ผมอีกว่า มีเพื่อนคนนึงเป็นเชื้อราบริเวณเท้าเป็นเรื้อรังมานานกว่า 2 ปีแล้วก็ยังไม่หาย ผมไม่อยากเป็นเชื้อราเรื้อรังด้วยครับ???
พอเจอสองโจทย์นี้มาหมอก็อึ้งไปเลยครับ งานเข้าแล้วทีนี้…..
คำตอบของหมอคือ
1. ทำอย่างไรไม่ให้เกิดการติดเชื้อราบริเวณเท้า เพราะหากติดเชื้อราแล้วมีข้อเสียคือมันจะเป็นเรื้อรังมากๆ บางคนต้องทายา กินยานานกว่า6เดือนจึงจะหาย สาเหตุของการที่ผิวหนังติดเชื้อราได้ง่ายข้อแรกคือ จากการที่ผิวหนังชั้นบนเสียสมดุลย์ไปจากการที่เท้าต้องแช่น้ำอยู่เป็นเวลานานๆ และติดต่อกันหลายๆวัน ข้อสองคือ การทายาพวกสเตีรอยด์ติดต่อกันนานๆซึ่งจะทำให้ผิวหนังติดเชื้อได้ง่าย เพราะฉะนั้นการแก้ปัญหานี้คือ การทำให้แห้งและไม่ทายาสเตียรอยด์
2. ทำอย่างไรให้หายจากน้ำกัดเท้า ข้อนี้ยากกว่าข้อแรกครับ เพราะพี่ๆน้องๆทหารต้องทำงานเพื่อพวกเราที่โดนน้ำท่วมอย่างยาวนาน ข้อแรกหมอจึงอธิบายความสำคัญของการทำให้เท้าแห้ง เพราะถ้าเกิดอาการระคายเคืองจากน้ำกัดเท้าจะต้องพักอย่างน้อยไม่ต่ำกว่า 2-3 วันอาการจึงจะดีขึ้น เพราะฉะนั้นทำให้เท้าแห้งเข้าไว้เมื่อมีโอกาส ถ้ามีอาการน้ำกัดเท้าผมได้ให้ Zinc Paste ซึ่งเป็นขี้ผึ้งรักษาอาการตืดเชื้อที่ไม่มีสเตียรอยด์และยังเป็นเหมือนฟิล์มป้องกันไม่ให้น้ำกัดเท้าได้ดีอีกด้วย

ง่ายๆเท่านี้ปัญหาน้ำกัดเท้าและเชื้อราก็ไม่ใช่เป็นปัญหาใหญ่อีกต่อไปครับ จำไว้ครับ “แห้งและไม่ทาสเตียรอยด์ “
ส่วนเราๆท่านๆที่ไม่ได้โดนน้ำอะไรมากมายจะโดนก็แต่เวลาเดินทาง หมอเห็นนวัตกรรมรองเท้ากันน้ำของไทยๆดูแล้วเข้าท่ามากๆเลยครับ ผมอุดหนุนไปหลายคู่แล้ว

นพ วิสิฏฐ ศรีสนิท
แพทย์ผู้ดำเนินงาน
SVJ Laser Clinic

:: Share This ::

ยิงเลเซอร์แรงๆได้มั้ยคะ

  • ยิงแรงๆได้มั้ยคะ
  • ใช้พลังงานสูงๆได้มั้ยครับ
  • ถ้ายิงเลเซอร์แรงๆผลที่ได้จะดีขึ้นรึเปล่าคะ

คำถามเหล่านี้เป็นคำถามที่ผมมักจะต้องตอบอยู่ทุกวันครับ และในปัจจุบันผมมีคนไข้มาถามหมอมากขึ้นเรื่อยๆ
เพราะเหตุใดหมอถึงอยากเขียนบทความอันนี้ขึ้นมา เดี๋ยวจะมาเฉลยครับ

ก่อนอื่นขอเล่าเรื่องของคนไข้คนหนึ่งให้ฟังก่อนครับ คนไข้คนนี้มาหาหมอด้วยปัญหาไปทำเลเซอร์ fraxel มาแล้วเกิดอาการผิวไหม้หรือ burn ครับ ซึ่งก่อนหน้านี้คนไข้คนนี้เคยมาทำ Fraxel กับหมอมาแล้ว 3 ครั้ง ทุกครั้งไม่มีปัญหาอะไร คนไข้ happy กับผลที่ได้ แต่ล่าสุดได้ไปทำ fraxel ที่อื่นเนื่องจากเพื่อนชวนไปทำ คนไข้เล่าให้ผมฟังว่าที่ตัดสินใจทำการรักษาเพราะเหตุผลว่า หมอบอกว่าจะทำพลังงานให้สูงๆ เพื่อจะทำให้ผลการรักษาที่ดีขึ้น ระหว่างการทำ fraxel คนไข้เล่าให้ฟังว่ามันร้อนมากไม่เหมือนทำที่ SVJ ระหว่างการทำก็ไม่มีการพ่นไอเย็น หลังทำก็ไม่มีการทา zinc
เพื่อป้องกันผิว ในใจคิดว่าต้องแย่แน่ๆ เพราะแสบหน้ามาก ซึ่งผลก็ไม่ต่างจากความคิดของคนไข้ครับ คือ มีอาการผิวหน้าคล้ำ เกิด PIH หลังการรักษา อุทาหรณ์เรื่องนี้สอนว่าอย่างไรครับ

หมอยกตัวอย่างง่ายๆครับ การทำเลเซอร์ก็เหมือนการขับรถ การที่เราจะเลือกขับรถให้เร็วๆ เปรียบเสมือนกับการให้พลังงานเลเซอร์ ส่วนสภาพผิวคนไข้ก็เหมือนกับตัวเครื่องยนต์ของรถ ส่วนการให้ความเย็นหรือการเตรียมคนไข้ก่อนและหลังการรักษาเปรียบเหมือนถุงลมนิรภัย

ถ้าเราอยากขับรถให้เร็ว ( อยากยิงพลังงานสูงๆ ) เราต้องเตรียมอะไรบ้างครับ??
ต้องเตรียมระบบ 3G ให้ดีครับ 3G ที่ว่านี้ คือ
1. Good skin คือต้องเตรียมเครื่องยนต์ให้ดี ก็เปรียบเสมือนกับผิวหนังต้องอยู่ในสภาวะที่แข็งแรง ไม่มีอาการผิวบาง หรือ ติดสเตียรอยด์
2. Good Machine คือ ต้องมีเครื่องมือที่ดี เปรียบได้กับการเลือกเครื่องเลเซอร์ให้ถูกต้องก่อนทำการรักษา
3. Good protection คือ ต้องมี เบรกที่ดี ถุงลมนิรภัยดี เพื่อป้องกันอันตรายที่จะเกิด เปรียบได้กับการมีระบบให้ความเย็นที่ดี มี zinc สมานแผลหลังทำ
ถ้าองค์ประกอบ 3G นี้ครบครัน ทุกคนคงมั่นใจในการเดินทางว่า 100% เราจะถึงที่หมายโดยปลอดภัย ซึ่งความคิด
3 G เรื่องนี้หมอใส่ใจเป็นอย่างมาก ถ้าขาด G ใดไปถ้าโชคดีก็อาจไม่เกิดความเสียหาย แต่ถ้าโชคร้ายล่ะก็ไม่อยากจะคิดครับ ในการเป็นแพทย์เลเซอร์ที่ดีนั้น เราต้องคำนึงถึงภาวะแทรกซ้อนให้มากๆครับเพราะการแข่งกันเพื่อที่จะใช้พลังงานสูงๆและทำให้ผิวคนไข้ burn เพียงครั้งเดียวนั้น มันไม่คุ้มกับเวลาและสภาพจิตใจที่คนไข้เสียไปครับ หมอฝากเป็นข้อคิดเอาไว้ครับ แต่ตามปกติหมอก็เป็นคนขับรถไม่ช้านะครับ ถ้าถนนโล่งๆ รถยนต์ดีๆก็ใช้ความเร็ว 140-160 km/h
เร็วมั้ยครับ หมอว่าspeed ระดับนี้พอเพียงที่จะให้ไปถึงที่หมายได้ทันใจแล้วครับ เปรียบได้กับพลังงานเลเซอร์ที่ยิงให้คนไข้ในสไตล์หมอครับ แต่ถ้าจะให้ใช้ความเร็ว 200 up ขับโชว์ว่าฉันทำได้ หรืออยากให้ผมขับให้ดู อันนี้หมอขอดูอยู่ห่างๆดีกว่าครับ มันไม่ปลอดภัย

นพ. วิสิฏฐ ศรีสนิท
Diploma in Dermatology
แพทย์ผู้ก่อตั้ง SVJ Laser Clinic

:: Share This ::

ผิวหนังในช่วงตั้งครรภ์

ในช่วงเวลาตั้งครรภ์ร่างกายคุณแม่มีการเปลี่ยนแปลงเป็นอย่างมากเพื่อเตรียม รับขวัญลูกน้อยที่อยู่ในท้องคุณแม่ ผิวหนังก็มีการเปลี่ยนแปลงเช่นกันโดยสรุปได้ดังนี้

1. สีผิวเข้มขึ้น อันเนื่องจากระดับฮอร์โมนทำให้สีผิวเปลี่ยนแปลงโดยเฉพาะบริเวณ รอบหัวนม ท้อง รักแร้ คอ อาการเหล่นนี้คุณแม่ไม่ต้องเป็นห่วงครับจะหายเองหลังคลอด

2. หลอดเลือดขยายตัว ถ้าเป็นที่ผิวหนังก็จะมีลักษณะของเส้นเลือดขอด แต่ถ้าเป็นที่ก้นก็จะพบว่าเป็นริดสีดวง ซึ่งปัญหาเหล่านี้จะดีขึ้นภายหลังการคลอด การพิจารณารักษาก็จะรักษาตามอาการในขณะตั้งครรภ์

3. หลอดเลือดเปราะ คุณแม่อาจมีอาการเลือดกำเดาออกง่าย แปรงฟันแล้วมีเลือดออกตามไรฟัน หากมีปัญหาเหล่านี้ไม่ต้องตกใจครับเพราะจะหายเองได้ภายหลังการคลอด

4. ตกขาวผิดปกติ หากไม่มีอาการคัน ไม่ต้องกังวลครับเพราะเป็นผลจากระดับฮอร์โมนนั่นเอง และจะหายได้เองภายหลังการคลอด

เรา จะเห็นว่าปัญหา4ข้อดังกล่าวเป็นปัญหาที่สามารถหายเองได้หลังคลอด แต่ปัญหาต่อไปจากนี้จะเรื่องที่ไม่หายภายหลังการตั้งครรภ์ครับ คุณแม่ที่มีปัญหาเหล่านี้ควรปรึกษาแพทย์หากมีอาการ

5. ผมร่วงหลังคลอด เนื่องจากระดับฮอร์โมนลดลงหลังการคลอด ทำให้เส้นผมหยุดการเจริญเติบโตพร้อมๆกัน ประกอบกับหลังคลอดลูกคุณแม่มือใหม่อาจมีภาวะเครียดและขาดสารอาหาร เนื่องจากต้องเลี้ยงดูลูก ทำให้เกิดผมร่วงผิดปกติภายหลังการคลอดได้ส่วนใหญ่จะพบในระยะ 3-6 เดือนหลังคลอดแต่ถ้าเลยกว่า 6 เดือนแล้วเส้นผมยังไม่หยุดร่วงควรปรึกษาแพทย์เพื่อการรักษาแต่เนิ่นๆ ตามประสบการณ์ของหมอหากยิ่งทิ้งไว้นานเส้นผมขาดการดูแล เมื่อมาทำการ test ด้วย DIHAM Lab ถ้าพบว่าขนาดเส้นผมเล็กกว่า 50 ไมครอน และจำนวนเส้นผมน้อยกว่า 35 เส้นต่อ 25 ตารางมิลลิเมตร ควรรีบปรึกษาปัญหาผมร่วง
6. หน้าท้องลาย ปัญหานี้พบบ่อยที่สุดและเป็นปัญหาที่คุณแม่ไม่อยากมีที่สุด หน้าท้องลายเกิดจากการขยายตัวของผิวหนัง ทำให้เส้นใยคอลลาเจนและอีลาสตินถูกทำลาย รวมทั้งมีการเสียการทำงานของหลอดเลือดใต้ผิวหนัง ในอดีตการใช้ครีมทาในกลุ่มวิตามินเอ AHA ยังให้ผลได้ไม่ดีนัก ในปัจจุบันมีการนำเลเซอร์เข้ามาใช้ในการรักษาซึ่งให้ผล ตามประสบการณ์ของหมอหากทำเลเซอร์ Vbeamร่วมกับFraxel จะได้ผลดีที่สุด
7. หน้าท้องหย่อนคล้อย เกิดจากผิวหนังที่ถูกยืดออก การออกกำลังกายจะช่วยทำให้ผิวหนังกระชับมากขึ้น แต่ในคนไข้บางคนที่น้ำหนักตัวเพิ่มขึ้นมากระหว่างการตั้งครรภ์ การออกกำลังกายเพียงอย่างเดียวยังไม่พอ ปัจจุบันมีการนำเทคโนโลยี RF ที่เรียกว่า Thermage มาช่วยในการยกกระชับผิวหนังส่วนนี้ ซึ่งได้ผลดี
8. สิว คน โบราณมักบอกว่าถ้าได้ลูกชายผิวแม่อาจหมองคล้ำมีสิว ถ้าได้ลูกสาวผิวแม่จะผ่องใส สิวในช่วงการตั้งครรภ์เป็นปัญหาใหญ่จริงๆครับเพราะการรักษาสิวส่วนใหญ่มัก ต้องใช้ยา ซึ่งยาที่ห้ามใช้ระหว่างการตั้งครรภ์ได้แก่ วิตามินเอ ยาฆ่าเชื้อต่างๆ หมอเองเมื่อมีคนไข้ที่เป็นสิวมาปรึกษาระหว่างการตั้งครรภ์ในสมัยก่อนลำบากใน การรักษามากแต่ตอนนี้สบายมากครับมีการใช้เลเซอร์มารักษาสิวโดยไม่เป็น อันตรายต่อทารกในครรภ์ครับและได้ผลดีด้วย แต่ต้องอยู่ในความดูแลของแพทย์เท่านั้นนะครับ

จะเห็นได้ว่าภาวะการตั้งครรภ์ก็ทำให้ผิวหนังเกิดการเปลี่ยนแปลงได้นะครับ หมอเขียนบทความนี้ก็เพื่ออยากให้คุณแม่ทุกท่านมีผิวสวยตลอดและหลังการตั้ง ครรภ์ครับ เนื่องจากหมอก็เป็นคุณพ่อมือใหม่เหมือนกัน ขอให้คุณพ่อและคุณแม่ทุกท่านมีความสุขในการเห็นพัฒนาการและความสวยงามของลูกๆนะครับ
นพ. วิสิฏฐ ศรีสนิท
พบ.รามาธิบดี
Diploma in Dermatology สถาบันโรคผิวหนัง

:: Share This ::

รักษาสิวสไตล์ SVJ

“หลังจากศูนย์เลเซอร์ SVJ ได้เปิดทำการรักษาคนไข้มาครบ 7 เดือน ภายใต้แนวทางการรักษาสิวด้วยเลเซอร์ ซึ่งเรามีจุดมุ่งหมายที่จะทำให้สิว หายโดยปราศจากรอยแผลเป็น หรือในผู้ป่วยที่มีรอยแผลเป็นอยู่แล้วรอยนั้นจะดีขึ้นเมื่อรับการรักษาจากเรา”

SVJ เป็นผู้นำในการรักษาสิวด้วยเลเซอร์ SmoothBeam, Vbeam โดยคลินิกนี้ไม่มีการใช้ยาสเตียรอยด์ ไม่ฉีด ไม่กดสิว จึงทำให้ไม่เกิดรอยแผลเป็น ไม่มีการติดยารักษาสิว ส่วนในเรื่องของรอยแผลเป็นเราเป็นคลินิกที่ได้นำเทคโนโลยี Dermaroller นำมารักษาร่วมกับการทำเลเซอร์ทำให้รอยแผลเป็นดีขึ้นมากกว่า 60% ซึ่งนับได้ว่าเป็นผลการรักษาที่ดีที่สุดในปัจจุบัน

ขณะนี้เราพยายามนำเลเซอร์ที่มีมาตรฐานสูงสุดในแต่ละเรื่องมาคอยบริการคนไข้ของเรา ล่าสุดคือ เลเซอร์ GentleYAG เป็นเลเซอร์ที่ใช้ได้ดีที่สุดในการกำจัดขนเส้นเลือดขอด หรือแม้แต่การยกกระชับใบหน้าและหน้าท้องเป็นอีกหนึ่งในงานบริการของเรา ( เราเป็นแพทย์กลุ่มแรกที่นำเครื่องเลเซอร์ GentleYAG มาใช้ในประเทศไทย)

[embedyt] https://www.youtube.com/watch?v=WvpSvClTL7A[/embedyt]

ในช่วงปีใหม่นี้ทาง SVJ มี package สำหรับการรักษาสิวและรอยแผลเป็นด้วยเลเซอร์ & Dermaroller

Dermaroller 3 ครั้ง เข็ม MF-8 1 อัน + Laser Vbeam หรือ SmoothBeam fullface 1 ครั้ง 20,000 บาท
Dermaroller 6 ครั้ง เข็ม MF-8 2 อัน + Laser Vbeam หรือ SmoothBeam fullface 1 ครั้ง 35,000 บาท

:: Share This ::

สิวอุดตัน ป้องกันง่ายๆ

หมอต้องตอบคำถามคนไข้อยู่ทุกวันว่า “ ทำอย่างไรดีกับสิวอุดตัน” “ จะป้องกันสิวอุดตันได้อย่างไรคะ คุณหมอ “ “ หนูกดสิวจนหน้าเป็นหลุมแล้ว “ “ เบื่อ ไม่อยากรักษาสิวอุดตันแล้ว “ “ ต้องทาครีมกันแดด ครีมบำรุงอะไร ถึงไม่เป็นสิวอุดตัน “

ในปัจจุบันหมอเริ่มสังเกตุเห็นว่าคนไข้มีปัญหาสิวอุดตันเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ คนไข้บางคนสุขภาพผิวดีมากแต่เป็นสิวอุดตัน บางคนไม่เคยเป็นสิวเลยในช่วงวัยรุ่นเพิ่งมาเป็นตอนวัยทำงาน สาเหตุเป็นเพราะอะไร คำตอบ คือ เกิดจากการใช้เครื่องสำอางค์กันอย่างแพร่หลายทั้งจากสื่อโทรทัศน์ วิทยุ ทำให้เกิดกระแส การบำรุงผิวต้องทาครีมไม่งั้นจะแก่เร็ว เป็นสิวเกิดจากผิวอ่อนแอต้องทาครีมบำรุง กลัวผิวแห้ง ทั้งๆที่อากาศในบ้านเราก็ร้อนอบอ้าวทำให้ผิวหนังผลิตน้ำมันมากอยู่แล้ว ดังนั้นการใช้ครีมมอยเจอร์ไรเซอร์ต่างๆแทบไม่มีความจำเป็นเลย

ภายในส่วนผสมของครีมต่างๆโดยเฉพาะ สารกันแดด สารให้ความหอม สารกันเสีย หรือแม้กระทั่ง ครีมเบส สารเหล่านี้มีรายงานว่าสามารถทำให้เกิดการระคายเคือง หรือ การแพ้ในรูปแบบของสิวอุดตันได้ และจากประสบการณ์ของหมอ คนไข้ที่เป็นสิวอยู่แล้ว ควรหลีกเลี่ยงการใช้ครีมและเครื่องสำอางค์ระหว่างการรักษาสิว เท่านี้สามารถลดการเกิดสิวอุดตันได้อย่างมีประสิทธิภาพและเงินในกระเป๋าก็ยังอยู่ครบ

ดังนั้นการป้องกันสิวอุดตันนั้นง่ายจริงๆ ทำไม่ยาก ไม่เสียเวลา
เพียงแต่เปลี่ยนความคิดใหม่ มีสติ ไม่อิงกระแสนิยม

ในบทความฉบับหน้ามาคุยกันเรื่อง “หากเกิดสิวอุดตันแล้วรักษาอย่างไรหน้าไม่พัง ”

นพ. วิสิฏฐ ศรีสนิท
พบ. รามาธิบดี
Diploma in Dermatology

:: Share This ::