fbpx

ผิวขาวคือผิวสวยจริงเหรอ??? ระวังขาวมากๆผิวจะพัง!!!

คำตอบในการดูแลผิวในปัจจุบันว่าดีไม่ดี ,,, ส่วนใหญ่คือ ผลลัพธ์ของผิวที่ขาว
ดังจะเห็นในโฆษณาบ่อยๆว่าความลับของผิวสวยคือผิวขาว เรื่องนี้จริงหรือไม่จริงครับ
หมอตอบเลยว่าไม่จริง การทำให้ผิวขาวคือการลอกผิวชั้นบนออกจึงทำให้ผิวดูขาวขึ้นแต่ข้อเสียทำให้ผิวบาง
ซึ่งไม่คุ้มกันซะเลย

แต่ในปัจจุบันโดยส่วนใหญ่เราจะประเมินถึงสุขภาพผิวโดยดูที่ความขาว ยิ่งทำอะไรแล้วขาวแสดงว่ายิ่งบำรุงผิวดีต้องยิ่งทำให้มากขึ้น ประเด็นนี้น่ากลัวครับ เพราะยิ่งทำให้ผิวขาวก็จะยิ่งทำให้ผิวบาง ผิวยิ่งบางก็จะทำให้ผิวอ่อนแอ
มีปัญหาสิวผด ฝ้าตามมา  ปัญหาผิวขาวแล้วบางอันนี้แก้ยากมากๆครับ เพราะส่วนใหญ่กว่าที่คนไข้จะขัดหน้าให้บางกว่าจะมารู้ตัวก็ใช้เวลาหลายๆปี บางครั้งจับต้นชนปลายไม่ถูกว่าทำไมตนเองถึงผิวบาง จะจับผิดแต่ครีมตัวสุดท้ายที่ใช้แต่หารู้ไม่ว่าเป็นเพราะครีมทุกๆตัวที่ใช้มาตั้งนานนั่นแหละครับที่ร่วมกันเป็นจำเลยเท่าๆ กัน

ดังนั้นหมออยากให้ประชาชนปรับทัศนคติ อย่าคิดว่าผิวขาวคือผิวที่แข็งแรงครับ อย่าแข่งกันขาวเลยเพราะจะทำให้ผิวเสียก่อนวัยอันควร

 

:: Share This ::

สร้างผิวให้เป็นแวมไพร์

หมอความงามสมัยนี้คงชอบดูหนังเดี่ยวกับแวมไพร์กันมากครับ ทั้ง twilight , Blade , interview with vampire เลยติดใจพระเอกนางเอกหล่อๆ สวยๆ ผิวขาวๆ ใสๆ น่ารักๆกันทั้งนั้น แต่…………โดนแดดไม่ได้


การสร้างกระแสทำให้คนไข้เป็นแวมไพร์ คือมีผิวที่ขาวตลอดไปแต่ห้ามโดนแดด เพราะไม่งั้นจะเป็นฝ้า กระ ( ต่างจากแวมไพร์นิดนึงตรงที่โดนแดดแล้วตาย ) เป็นคุณลักษณะของผิวที่อ่อนแอ ดังนั้นการทำทรีตเมนต์ ทาครีม หรือแม้แต่เลเซอร์บางชนิดเพื่อทำให้
ผิวขาวจึงไม่ต่างอะไรกับการทำให้ผิวเสีย ผิวบางกลายเป็นแวมไพร์ ใครอยากที่จะผิวขาวใสมากๆต้องลองตรองดูนะครับ

สำหรับ SVJ ผิวขาวใสโดยปราศจากความแข็งแรงเราไม่ทำ
ขอบคุณรูปภาพจากเว็ป www.wallpaperup.com

:: Share This ::

อันตรายจากสารฉีดตัวขาว Glutathione

อันสืบเนื่องมาจากข่าวทางหน้าหนังสือพิมพ์เรื่องการฉีดยาทำให้ตัวขาว ทางองค์การอาหารและยาของไทยออกมาเตือนผู้บริโภคให้ระมัดระวังการฉีดสารชนิดนี้ ทาง svjclinic.com ได้ลงบทความเตือนเรื่องการฉีดสารตัวขาวไปเมื่อวันที่ 9 กันยายน 50 บทความฉบับนี้เป็นการย้ำเตือนอีกครั้งถึงการฉีดสารตัวขาวหรือ กลูตาไทโอน ( glutathione )

สารที่ใช้ฉีดชนิดนี้คืออะไร?? สารที่ฉีดมีชื่อว่า กลูตาไทโอน ( Glutathione) ซึ่งนับว่าเป็นยาชนิดหนึ่งไม่ใช่วิตามินหรืออาหารเสริมใดๆ มีทั้งในรูปแบบของยากินและยาฉีด ปัจจุบันยังไม่เป็นยาที่ได้รับอนุญาติให้ใช้ในประเทศไทย

กลูตาไทโอน( glutathione ) เป็นยาที่ใช้ในกามในคนไข้โรคตับ ภูมิต้านทานบกพร่อง โรคหัวใจ ส่วนรายงานในเรื่องการรักษาทำให้ผิวขาวยังไม่มีรายงานที่แน่ชัด ส่วนความปลอดภัยในการฉีดพบว่าสารกลูตาไทโอนสามารถทำให้เกิดการแพ้ชนิดร้ายแรงได้ ดังนั้นการฉีดเพื่อตัวขาวจึงต้องระมัดระวังอย่างยิ่ง

นพ. สมนึก อมรสิริพาณิชย์
อเมริกันบอร์ดทางผิวหนัง

สารตัวนี้มีลักษณะ เป็นอณูของโปรตีนที่เกิดจาก กรด อะมิโน 3 ชนิด มาประกอบกันคือ Cysteine Glutamate และ Glycine โดยปกติเซลล์ในร่างกายสามารถสร้างเองได้ จากกระบวนปฏิกิริยา ชีวเคมีในเซลล์ทั่วไป แต่ที่ทำงานสร้าง สารนี้มากที่สุดก็คือ ที่ตับของเรา การสร้างสารนี้ต้องอาศัย เอนไซม์ อย่างน้อย 2 ชนิด ดังนั้น หากมียีนผิดปกติเกี่ยวกับเอนไซม์ ทั้ง2 ชนิดนี้ก็จะไม่สามารถสร้างสารตัวนี้ได้

สารชนิดนี้มีบทบาทสำคัญในการควบคุมสารอณุมูลอิสระในร่างกาย การสร้างสารซ่อมแซม เซลล์ และ ทำปฏิกิริยาขจัดสารพิษที่เกิดในร่างกาย หากการสร้างสารนี้ผิดปกติหรือไม่สร้าง จะทำให้เสียชีวิตใน1-2 เดือนหลังคลอดได้

สารชนิดนี้เมื่อถูกสร้างก็จะถูกใช้ไปเป็นลำดับ หาก การใช้มีมากก็ต้องทดแทนมากขึ้นโดยการสร้าง ถ้ามีการวัดสาร Glutathione ว่าถูกใช้ไปเท่าไรก็จะสามารถบ่งบอกสภาวะความเครียดของร่างกายได้

การให้สาร Glutathione ทดแทนและเสริมนั้นสามารถทำได้โดยการรับประทาน สารที่เป็นวัตถุดิบคือ N-acetyl cysteine หรือรับประทานอาหาร ที่มีสารวัตถุดิบหลักนี้ตามธรรมชาติ เช่น รับประทาน yogurt, granola, duck, oatmeal flakes, toasted wheat germ, cottage cheese

แต่การกินสาร Glutathione โดยตรงจะไม่สามารถดูดซึมได้ดีเท่าที่ควร

ความนิยมทีใช้สาร Glutathione เพื่อให้ผิวขาวขึ้นนั้น อาจจะมาจาก ความพยายามที่จะให้สาร Glutathione ไปยับยั้งการสร้าง เม็ดสี เพราะสาร Glutathione สามารถกดการทำงานของของเอนไซม์ที่ผลิตเม็ดสีได้ชั่วคราว แต่ทำไมถึงต้องนำมาฉีดกัน คำตอบง่ายๆก็คือ พยายามทำให้ซับซ้อนขึ้นจะได้ต้องมาพบแพทย์ เพื่อประโยชน์ทางธุรกิจเท่านั้นเอง

เพราะ เราสามารถรับประทานอาหารที่เสริมสร้าง Glutathione ได้โดยตรงหรือ สามารถรับประทาน N-acetyl cysteine เสริมก็ได้ มีราคาประหยัดว่า และ ปลอดภัยกว่า

โทษของการฉีดสาร Glutathione มีหรือ ไม่ น่าจะต้องมีเพราะ ปฏิกิริยาในการสร้าง สารนี้ถูกจำกัดด้วยเอนไซม์โดยตรงที่ต้องหยุดสร้างเพื่อรักษาสมดุล ดังนั้นสารนี้จึงห้ามมีมากเกินไปในธรรมชาติ หากจะอ้างเรื่องการฉีดเพื่อประโยชน์ต่อผู้ป่วย คงต้องมีการเจาะวัดระดับ สารตัวนี้ว่าอยู่ในระดับที่สมดุลหรือไม่เป็นการควบคุมโดยตรงในทุกครั้งที่มีการฉีดจึงจะมีเหตุผล

การฉีดสารนี้มีการทำกันเฉพาะกรณี ฉุกเฉินและเป็นกังวลต่อชีวิต เช่น การฉีดเพื่อรักษากล้ามเนื้อ หัวใจขาดเลือดเพราะมีเส้นเลือดอุดตัน หรือ ฉีดเพื่อเพิ่มการไหลเวียนของเลือด ระหว่างการผ่าตัดทำ cardiopulmonary bypass ทั้งนี้เพราะสาร Glutathione สามารถกระตุ้นการสร้าง Nitric oxide ซึ่งมีฤทธิ์ขยายหลอดเลือดได้ แต่การขยายตัวของเลือดจะทำให้เกิดความดันต่ำและทำให้หัวใจเกิดปัญหาได้เหมือนกัน นอกจากนี้ยังสามารถทำให้เกร็ดเลือดไม่จับตัวกันทำให้เลือดหยุดช้ากว่าปกติ

มีผู้รู้หลายท่าน มีความกังวลว่าหากมีสาร Glutathione ในร่างกายมากเกินไปจะสามารถทำให้มะเร็งลุกลามได้เร็วกว่าปกติ เพราะเลือดสามารถไปเลี้ยงมะเร็งได้มากขึ้น และกระบวนการทำลายมะเร็งก็จะลดประสิทธิภาพลง

บทความนี้จึงมีไว้เตือนผู้บริโภคที่กำลังสับสนกับการบริการของแพทย์ที่ ด่วนสรุปและเห็นแต่ผลดี แต่ยังไม่รอบคอบที่จะมองอะไรอะไร ในระยะยาว ตามหน้าที่ของตนเอง

:: Share This ::

สาร Glutathione สำหรับทำให้ผิวขาวที่กำลังเป็นที่นิยม

สารตัวนี้มีลักษณะ เป็นอณูของโปรตีนที่เกิดจาก กรด อะมิโน 3 ชนิด มาประกอบกันคือ Cysteine Glutamate และ Glycine โดยปกติเซลล์ในร่างกายสามารถสร้างเองได้ จากกระบวนปฏิกิริยา ชีวเคมีในเซลล์ทั่วไป แต่ที่ทำงานสร้าง สารนี้มากที่สุดก็คือ ที่ตับของเรา การสร้างสารนี้ต้องอาศัย เอนไซม์ อย่างน้อย 2 ชนิด ดังนั้น หากมียีนผิดปกติเกี่ยวกับเอนไซม์ ทั้ง2 ชนิดนี้ก็จะไม่สามารถสร้างสารตัวนี้ได้ สารชนิดนี้มีบทบาทสำคัญในการควบคุมสารอณุมูลอิสระในร่างกาย การสร้างสารซ่อมแซม เซลล์ และ ทำปฏิกิริยาขจัดสารพิษที่เกิดในร่างกาย หากการสร้างสารนี้ผิดปกติหรือไม่สร้าง จะทำให้เสียชีวิตใน1-2 เดือนหลังคลอดได้

สารชนิดนี้เมื่อถูกสร้างก็จะถูกใช้ไปเป็นลำดับ หาก การใช้มีมากก็ต้องทดแทนมากขึ้นโดยการสร้าง ถ้ามีการวัดสาร Glutathione ว่าถูกใช้ไปเท่าไรก็จะสามารถบ่งบอกสภาวะความเครียดของร่างกายได้

การให้สาร Glutathione ทดแทนและเสริมนั้นสามารถทำได้โดยการรับประทาน สารที่เป็นวัตถุดิบคือ N-acetyl cysteine หรือรับประทานอาหาร ที่มีสารวัตถุดิบหลักนี้ตามธรรมชาติ เช่น รับประทาน yogurt, granola, duck, oatmeal flakes, toasted wheat germ, cottage cheese

แต่การกินสาร Glutathione โดยตรงจะไม่สามารถดูดซึมได้ดีเท่าที่ควร
ความนิยมทีใช้สาร Glutathione เพื่อให้ผิวขาวขึ้นนั้น อาจจะมาจาก ความพยายามที่จะให้สาร Glutathione ไปยับยั้งการสร้าง เม็ดสี เพราะสาร Glutathione สามารถกดการทำงานของของเอนไซม์ที่ผลิตเม็ดสีได้ชั่วคราว แต่ทำไมถึงต้องนำมาฉีดกัน คำตอบง่ายๆก็คือ พยายามทำให้ซับซ้อนขึ้นจะได้ต้องมาพบแพทย์ เพื่อประโยชน์ทางธุรกิจเท่านั้นเอง เพราะ เราสามารถรับประทานอาหารที่เสริมสร้าง Glutathione ได้โดยตรงหรือ สามารถรับประทาน N-acetyl cysteine เสริมก็ได้ มีราคาประหยัดว่า และ ปลอดภัยกว่า
โทษของการฉีดสาร Glutathione มีหรือ ไม่ น่าจะต้องมีเพราะ ปฏิกิริยาในการสร้าง สารนี้ถูกจำกัดด้วยเอนไซม์โดยตรงที่ต้องหยุดสร้างเพื่อรักษาสมดุล ดังนั้นสารนี้จึงห้ามมีมากเกินไปในธรรมชาติ หากจะอ้างเรื่องการฉีดเพื่อประโยชน์ต่อผู้ป่วย คงต้องมีการเจาะวัดระดับ สารตัวนี้ว่าอยู่ในระดับที่สมดุลหรือไม่เป็นการควบคุมโดยตรงในทุกครั้งที่มีการฉีดจึงจะมีเหตุผล

การฉีดสารนี้มีการทำกันเฉพาะกรณี ฉุกเฉินและเป็นกังวลต่อชีวิต เช่น การฉีดเพื่อรักษากล้ามเนื้อ หัวใจขาดเลือดเพราะมีเส้นเลือดอุดตัน หรือ ฉีดเพื่อเพิ่มการไหลเวียนของเลือด ระหว่างการผ่าตัดทำ cardiopulmonary bypass ทั้งนี้เพราะสาร Glutathione สามารถกระตุ้นการสร้าง Nitric oxide ซึ่งมีฤทธิ์ขยายหลอดเลือดได้ แต่การขยายตัวของเลือดจะทำให้เกิดความดันต่ำและทำให้หัวใจเกิดปัญหาได้เหมือนกัน นอกจากนี้ยังสามารถทำให้เกร็ดเลือดไม่จับตัวกันทำให้เลือดหยุดช้ากว่าปกติ
มีผู้รู้หลายท่าน มีความกังวลว่าหากมีสาร Glutathione ในร่างกายมากเกินไปจะสามารถทำให้มะเร็งลุกลามได้เร็วกว่าปกติ เพราะเลือดสามารถไปเลี้ยงมะเร็งได้มากขึ้น และกระบวนการทำลายมะเร็งก็จะลดประสิทธิภาพลง
บทความนี้จึงมีไว้เตือนผู้บริโภคที่กำลังสับสนกับการบริการของแพทย์ที่ ด่วนสรุปและเห็นแต่ผลดี แต่ยังไม่รอบคอบที่จะมองอะไรอะไร ในระยะยาว ตามหน้าที่ของตนเอง

นพ. สมนึก อมรสิริพาณิชย์
อเมริกันบอร์ดทางผิวหนัง

:: Share This ::